ร้านมังคุด คาเฟ่ “อร่อยจนต้องบอกกัน”
เมนูวัฒนธรรม ไอเดียและความเรียบง่ายของศิลปะ ที่ร้านมังคุด คาเฟ่
หลายคนคงคุ้นเคยกับร้านอาหาร “มังคุด คาเฟ่ ของ Club Arts” กันบ้างนะคะ ซึ่งแต่ก่อนเคยตั้งอยู่ที่ ซอยวัดระฆัง แขวงศิริราช และเป็นที่รู้จักกันดีในรูปแบบของร้านอาหารไทยฟิวชั่น และแกลเลอรีศิลปะของ “คุณอนุรักษ์ แพรโรจน์” ศิษย์เอกของครูเล็ก (คุณภัทราวดี มีชูธน) มากว่าสิบปี
“ร้านมังคุด คาเฟ่ และคลับ อาร์ท” คือจุดเริ่มต้นของการผสมผสานงานศิลปะ วัฒนธรรมอาหาร และธุรกิจ เข้ากันได้อย่างกลมกลืน สู่ความเป็นเอกลักษณ์ จนทุกวันนี้ แม้ว่าจะย้ายมาอยู่ที่ถนนราชพฤกษ์ ก็ยังไม่ทิ้งเสน่ห์และกลิ่นอายของอาหารไทยโบราณ ที่มาพร้อมกับงานศิลปะอย่างเช่นที่เคยเป็นมา
ทีมงานผึ้งพูดได้เลยว่าทุกเมนูที่นี่ มีหน้าตาการตกแต่งที่ซ่อนความหมายอยู่เสมอ เพราะด้วยจิตวิญญาณและแนวทางการทำธุรกิจของคุณอนุรักษ์ที่มุ่งเน้น และให้ความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องวัตถุดิบ ที่ปลูกเอง ใช้เอง โดยใช้หลักของการอยู่อย่างพอเพียงของคนในชุมชน มาปรับใช้ในเรื่องของอาหารการกิน อย่างเช่น ผักต่างๆ ที่เราคิดว่าไม่น่าจะทานได้ แต่ที่จริงแล้ว ทานได้ แถมยังมีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็น “ดอกพวงชมพู” “ดอกชมพู่มะหมียว” “ใบเล็บครุฑ” และอื่นๆ ที่ปลูกกันได้ง่ายตามบ้านเรือนของเรา
เมนูที่ผึ้งสั่งมาก็มีมากมายหลายอย่างมากค่ะ แต่ทีมงานผึ้งกลับทานกันหมดนะคะ นั่นเป็นเพราะรสชาติที่อาหารอร่อย บรรยากาศที่สนุก ตื่นตาตื่นใจ ไปกับความสวยงามและความปราณีตของเมนูที่ร้านนี้
บรรยากาศโปร่งโล่งสบาย ด้วยกำแพงกระจกใส โทนของร้านเป็นสีอ่อน ตัดด้วยสีสันของงานศิลป์บนผนังปูนเปลือย
บรรยากาศภายในร้าน ทั้งด้านล่างที่เป็นร้านอาหาร และชั้นสองเปิดเป็น อาร์ต แกลเลอรี่ ซึ่งเปิดให้ขึ้นไปชมฟรีได้
มีภาพประดับตามผนัง และมีของตกแต่งอีกหลายอย่าง เช่น รูปปั้น แจกันดอกไม้ มีการจัดโต๊ะอาหารแบบสบายๆ นั่งทานได้เพลินๆ
มองไปข้างนอกก็เจอวิวธรรมชาติ ที่เป็นต้นไม้ล้อมรอบร้าน สีเขียวสบายตา และแล้วก็ถึงเวลาที่ผึ้งจะพาเพื่อนๆ ไปชมเมนูเด็ดที่สั่งมาชิมกันค่า
ทางร้านยังมีขนมให้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วยนะคะ มาในบรรจุภัณฑ์ที่น่ารัก สวยงามมากๆ ขนมก็จะมีเป็นน้ำพริกเผา (ทานกับขนมปัง) กลีบลำดวน ปลาแห้ง วุ้นมะตูม วุ้นขิงค่ะ
1. ห่มรักในสวน
เปิดมาด้วยเมนูแสนน่ารักกับ “ห่มรักในสวน” เป็นแป้งปอเปี๊ยะญวณ ที่มีความเนียวหนึบอยู่ในตัว ห่อมาด้วยวุ้นเส้น แครอท แตงกวา เส้นหมี่ขาว รวมไปถึงงาขาวและงาดำ
มาทั้งความอร่อยและความปราณีตในการตกแต่งด้วยผักและดอกไม้สีสันสวยงาม อย่างเช่นอัญชันและกลีบกุหลาบ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มที่มีรสจัดนิดๆ
เราก็นั่งมองกันไปมองกันมา อยากจะหยิบเข้าปากแต่ แหม่…เสียดายความสวยงามของจานนี้เสียเหลือเกิน
2. ปลาแห้งแตงโม
ปกติเราก็จะคุ้นเคยกับปลาแห้ง ที่สามารถหาซื้อทานง่ายๆ ตามตลาดสดทั่วไป ซึ่งมักจะเป็นข้าวเหนียวปลาแห้ง
แต่สำหรับที่ร้านนี้ เขามีวิธีนำเสนอที่แปลกตาและรสชาติแตกต่างกว่าที่อื่นๆ เจ้าของร้านบอกว่าที่นี่ใช้ปลาช่อนทะเล จึงได้รสชาติของความเค็มนิดๆ โดยที่ไม่ต้องใส่เกลือ มาผสมกับน้ำตาลทราย กับความหอมของหอมแดงซอยไปเจียวให้เหลืองกรอบ ฟินมากๆ ค่ะ ยิ่งนำมาทานคู่กับแตงโมที่เย็นหวานฉ่ำ จะช่วยดับร้อนได้ดี
อาจจะดูเหมือนไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่มันกลับเข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะค่ะ
ด้วยเนื้อแตงโมที่หวานๆ เย็นๆ ปนรสเค็มนิดๆ ของปลาแห้ง และยังได้กลิ่นหอมแดงเจียวอีก …นับได้ว่าเป็นของโปรดของหลายๆ ท่านเลยทีเดียว เมนูนี้เพื่อนๆ สามารถทานเป็นอาหารว่างดับร้อนได้นะคะ
3. ยำเต้าหู้อ่อนหมูสับกับดอกไม้สด
เมนูนี้ขอบอก พวกเราชอบมาก มีความสวย สะดุดตา ตรงที่เขานำดอกชมพู่มะเหมียวสดๆ มาปรุงและโปรยตกแต่งอยู่ด้านบนยำเต้าหู้อ่อนหมูสับ ได้รสชาติกลมกล่อม ไม่จัดจ้านมาก
เต้าหู้ไข่ ที่ทอดกรอบมาด้านนอก ส่วนด้านในยังคงนุ่มลิ้น คลุกเคล้ามาด้วยเครื่องยำกับหมูสับ และผักชนิดต่างๆ ตักทานเข้าไปรสชาติเข้ากันได้ดี
4. ต้มข่ายอดมะขามอ่อน ปลาสลิดกรอบ
เป็นเมนูไทยแท้ ๆ จริงๆ เลยก็ว่าได้ค่ะสำหรับเมนู “ต้มข่ายอดมะขามอ่อน ปลาสลิดกรอบ” ซึ่งมาแบบครบเครื่องทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ข่า มะเฟือง ใบมะขามอ่อน ผักชี และพริกแดงแห้ง ที่สำคัญเนื้อปลาสลิดกรอบ ก็เข้ากันได้ดีกับน้ำแกงกะทิของเมนูเด็ดนี้
อยากได้อีกสักถ้วยมาซดกับข้าวสวยร้อน ๆ หน่อยนะคะ เพราะรสชาติที่อร่อยกลมกล่อม และยังได้ประโยชน์จากสมุนไพรครบเครื่องแบบนี้ ใครล่ะจะอดใจไหว
5. ข้าวคลุกปลาทูคุณยาย
อาหารคาวจานนี้ เมนู “ข้าวคลุกปลาทูคุณยาย” ที่ดูเหมือนจะง่าย แต่ไม่ง่ายเลยนะคะ เป็นข้าวอัญชันผสมเครื่องยำจากทางร้าน ที่มีทั้งน้ำปลา พริกขี้หนูสด หอมแดง มะเฟืองที่มีรสเปรี้ยวใช้แทนมะนาวได้เลย
เรียกได้ว่า รสชาติกลมกล่อมเค็มๆเผ็ดๆ เปรี้ยวๆ ทานข้าวคู่กับปลาทู ช่างเข้ากันได้เป็นอย่างดี ทั้งรสชาติและสีสันทำออกมาได้ลงตัวจริงๆ ค่ะ หรือจะสั่งข้าวอัญชันมาเพิ่มอีกสักหน่อย ก็ยังทานไหวนะคะ
6. ผัดไทยล้านนา
ถึงเมนูหลักกันบ้างนะคะ สำหรับ “ผัดไทยล้านนา” จานนี้ทำออกมาได้สวยงามและอลังการมากๆ เป็นผัดไทยเส้นจันทร์ ที่เส้นทั้งเหนียวและนุ่ม รสชาติค่อนข้างหวาน มีกุ้งตัวใหญ่ๆ ด้านบนเป็นเส้นข้าวซอยทอดกรอบเคี้ยวเพลินๆ ทานแล้วเข้ากันอย่างดีกับน้ำซอสเปรี้ยวนิดๆ
ความแปลกตาของเมนูนี้คงเป็นเรื่องของการจัดวางเส้นข้าวซอยที่ดูงดงามและอ่อนช้อยมากค่ะ
7. กุ้งซอสมะขามกับใบเล็บครุฑทอดกรอบ
เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน ว่าใบเล็บครุฑก็ทานได้นะคะ กับเมนู “กุ้งซอสมะขามกับใบเล็บครุฑทอดกรอบ” ที่พอเราลองชิมกัน ก็ร้องโอ้โห้กันเลย เพราะทำได้กรอบอร่อยมากจริงๆ ทานคู่กับกุ้งและซอสมะขาม ออกมาเป็นรสชาติที่กลมกล่อม เข้ากันได้ดี
เขาตกแต่งจานมาได้สวยงามมากๆ ส่วนอาหารก็รสชาติอร่อย ได้ความกรอบของกุ้งทอด และใบเล็บครุฑทอด ผสมกับความเปรี้ยวนิดๆ หวานหน่อยๆ ของซอสมะขาม ห้ามพลาดเมนูนี้เลยนะคะ
8. สำปันนี
สำหรับเมนูของหวานนั้น แต่ละวันจะไม่เหมือนกันนะคะ
สำหรับของหวานประจำวันนี้ อย่างแรกคือ “สำปันนี” เป็นขนมเนื้อเนียน สีขาวปนสีฟ้าน้ำทะเล ลักษณะจะคล้ายๆ กับขนมโก๋เลยนะคะ เขาทำเป็นรูปทรงดอกไม้ต่างๆ สวยงามน่าทานมาก
9. มังคุดลอยแก้วและน้อยหน่าลอยแก้ว
ของหวานเมนูต่อมา คือ “มังคุดลอยแก้วและน้อยหน่าลอยแก้ว” ค่ะ สีสันช่างดูเพลินตาเพลินใจเป็นอย่างมาก มีสีม่วงอ่อน และสีขาวนวลๆ รสชาติจะไม่หวานมากนะคะ
เขาเสิร์ฟมาในถ้วยแก้วขาวใส ประดับตกแต่งด้วยดอกอัญชันด้านบน
ตัววุ้นจะผสมกับเนื้อมังคุดและน้อยหน่า มาแบบเต็มคำ ตักทานแล้วหวานเย็น ชื่นใจมากๆ ค่ะ
10. เฉาก๊วยมะละกอเชื่อมสานรูปรังแตน
อีกเมนูของว่าง ที่มาในรูปลักษณ์สวยสะดุดตามาก ๆ
“เฉาก๊วยมะละกอเชื่อมสานรูปรังแตน” มะละกอจะนำมาเชื่อมในน้ำดอกอัญชันก่อน แล้วจึงน้ำมาสานเป็นรูปรังแตนค่ะ
นำมาทานคู่กับขนมเฉาก๊วย เขาใสน้ำแข็งใสแบบไทยๆ และมีน้ำตาลแดง ไว้โรยหน้าเฉาก๊วยด้วยค่ะ อร่อยชื่นใจ คลายร้อนได้ดีจริงๆ
11. เต้าฮวยนมสดมะพร้าวอ่อน
มาลองชิม เมนูของหวาน “เต้าฮวยนมสดมะพร้าวอ่อน” ที่เสิร์ฟมาเป็นถ้วยแก้วใสๆ เต้าฮวยเป็นสีฟ้าอ่อนๆ ดูอ่อนหวาน ตกแต่งมาด้วยดอกอัญชันวางด้านบน
พอตักทานแล้ว สัมผัสได้ถึงเนื้อเต้าฮวยนิ่มๆ ผสมกับมะพร้าวอ่อน
กินกันแบบจุใจ ได้มะพร้าวมาเต็มๆ หอมหวานละมุนลิ้นมากค่ะ
12. ลูกชุบ
สำหรับของหวานเมนูสุดท้าย “ลูกชุบ” ถือว่าเป็นขนมไทยในวัง มีหลากสี หอม หวาน สดใส ทำมาจากถั่วเหลืองผสมกลมกลืนกับน้ำกะทิ คลุกเคล้าและกวนจนเข้ากันด้วยดี เนื้อถั่วเหลืองละเอียดมากค่ะ
แต่ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งคือการปั้นถั่วเป็นรูปผักผลไม้ชนิดต่างๆ เช่น มะเขือพวง มะเขือเปราะ พริกเขียว พริกแดง และแครอท และเขายังใช้ส่วนขั้วของผักผลไม้สดมาเป็นส่วนประกอบอีกด้วย เหมือนจริงมากทีเดียว สวยงามจนไม่กล้าหยิบทานเลยค่ะ
เมื่อทานอาหารอิ่มแล้ว เจ้าของร้านก็แนะนำให้ขึ้นไปชมชั้นสองของร้าน ซึ่งจัดแสดง “นิทรรศการของพ่อจากปลายพู่กันด้วยหัวใจ” เพื่อแสดงความอาลัยและร่วมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 กันนะคะ
ภายในร้านตกแต่งด้วยภาพวาดศิลปะที่เกี่ยวกับพ่อหลวง และของเก่าที่หาดูได้ยาก ทุกสิ่งถูกนำมาจัดวางและผสมผสานกันได้อย่างลงตัว
มังคุดคาเฟ่ ตั้งอยู่ที่ 94/87 ราชพฤกษ์ 34 ตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร
ซึ่งไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ซะทีเดียวนะคะ แต่จากถนนใหญ่จะสามารถมองเห็นร้านได้อย่างชัดเจน ถ้ามาจากถนนบรมชาชชนนี ให้กลับรถใต้สะพานคลองมหาสวัสดิ์ หรือตรงถนนสวนผัก พอกลับรถมาแล้วก็เลี้ยวเข้าซอยราชพฤกษ์ 34 ได้เลยค่ะ
นอกจากนี้ยังมีของหวานอื่นๆ ให้ได้ลิ้มรสกันเพลินๆ เช่น บานอฟฟี่ หรือเค้กหลากหลายชนิด อย่าลืมแวะมาทานกันนะคะ