บ้านตานิด ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ ริมแม่น้ำใกล้กรุงเทพฯ
ช่วงนี้อากาศบ้านเมืองเราก็ถือได้ว่าเป็นหน้าฝน แต่ก็ยังมีอากาศร้อนๆ ปนแดด และมีฝนตกแทบจะทั้งวัน พอมีวันหยุดแค่สุดสัปดาห์ก็เลยอยากจะไปทานอาหารและพักผ่อนใกล้ ๆ กรุง ในบรรยากาศสงบท่ามกลางธรรมชาติ อยู่ริมแม่น้ำใหญ่ยิ่งดี ถ้าที่ผึ้งพูดมาทั้งหมดตรงกับใจของเพื่อน ๆ แล้วล่ะก็ …เชิญมากินมาเที่ยวที่จังหวัดปทุมธานี อำเภอสามโคกเลยนะคะ หลีกหนีความวุ่นวายในเมืองกรุงแล้วมาพบเจอกับความสุขสงบริมแม่น้ำเจ้าพระยากัน
ก่อนอื่นเลยเนี่ย ผึ้งขอเล่าถึงประวัติของอำเภอสามโคกนิดนึงนะคะ ‘อำเภอสามโคก’ เป็นเมืองเก่าแก่มานาน เหตุที่มีชื่อนี้เพราะมีโคกโบราณอยู่ในเมือง 3 แห่ง ชาวบ้านแถบนี้ส่วนใหญ่มาจากเชื้อสายชาวมอญ เพราะมีปรากฎหลักฐานไว้ว่า ช่วงสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมิงเปอกับพรรคพวกมอญด้วยกัน 11 คน ได้พาครอบครัวมอญประมาณหมื่นคนอพยพหนีการกดขี่ของพม่าเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ “บ้านสามโคก” ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ชุมชนมอญได้ขยายตัวเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ จึงได้ตั้งเป็นเมืองขึ้นในบริเวณใกล้กับวัดสิงห์และใช้ชื่อว่า “เมืองสามโคก” (ข้อมูลจาก แนวหน้า)
เอาล่ะค่ะ พอรู้ประวัติคร่าว ๆ ของเมืองนี้มาแล้วบ้าง เพื่อน ๆ คงอยากจะตามผึ้งไปดูสถานที่พักผ่อนกันใจจะขาดแล้วใช่ไหมล่ะ มาดูกันดีกว่าว่าแถวนี้มีอะไรน่าเที่ยวกันบ้าง แถบนี้ก็จะมีวิวสวย ๆ ในแบบริมน้ำให้ได้ชม มีของกินขายตามชุมชน และมาแถวนี้ที่จะขาดไปไม่ได้ก็คือ มาทานอาหารที่ “บ้านตานิด” พร้อมพักผ่อนกายา นั่งทอดตัวพิงหมอนขิด (หมอนอิงสามเหลี่ยม) มองดูวิวแม่น้ำแม่เจ้าพระยา และเหล่าเรือลำเล็กลำน้อยลำใหญ่แล่นผ่านไปมา
“บ้านตานิด” หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตากันมาบ้าง นั่นก็เป็นเพราะบ้านตานิดเป็นฉากบ้านของพี่เทิด (หลุยส์ สก๊อต) ในละครเรื่อง “เพลิงบุญ” ที่มีเบลล่า (แม่การะเกด) เป็นนางเอกนั่นเอง โดยแต่เดิมบ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้สักทองของคุณย่า ที่เจ้าของบ้าน ตกแต่งใหม่แล้วดัดแปลงเป็นโฮมสเตย์ริมน้ำและร้านอาหาร ด้วยความที่เจ้าของบ้านมีอาชีพเป็นสถาปนิกที่รับสร้างบ้านและดูแลงานตกแต่งภายในอยู่แล้ว ก็เลยปรับปรุงบ้านหลังเก่าอายุ 70 กว่าปีหลังนี้ให้กลับมาสวยงามมีชีวิตชีวา จนได้รับรางวัลอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่นเลยค่ะ
จะเห็นได้ว่าดูเป็นบ้านไม้แบบเรือนไทยริมน้ำ แต่ก็มีความสมัยใหม่ผสมอยู่ด้วย อย่างการตกแต่งด้วยระแนงไม้ และธีมของที่นี่ก็จะเป็นสีออกเขียว ๆ ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติตลอดเวลา
แถมยังมุมที่นั่งที่เป็นหมอนขิด และร่มไม้แบบเก๋ ๆ ให้ได้นั่งพักผ่อน ตากลมชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา หรือใครใคร่จะไปนั่งตรงบันไดท่าเรือก็ได้
ภายนอกของบ้านตานิดก็จะล้อมรอบไปด้วยต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ สัมผัสได้ถึงความร่มรื่นเป็นธรรมชาติ ส่วนภายในตัวบ้านก็จะเป็นบ้านไม้ตกแต่งแบบย้อนยุค ของตกแต่งบางชิ้นก็เป็นของเก่าแก่
มีจุดนั่งพักผ่อนหลายที่ บางจุดก็เป็นมุมถ่ายรูปได้เก๋ ๆ ที่สำคัญที่นี่เน้นความเงียบสงบ เป็นส่วนตัว เหมาะแก่การมาพักผ่อนจริง ๆ
ที่แถบนี้ก็ยังเป็นโรงกรองน้ำ (ต้นน้ำ) ด้วยนะคะ มอง ๆ ไปก็จะเจอวิวที่เป็นเสาสูงมาก ๆ ตั้งตระหง่านอยู่ นี่คือโรงสีเก่าค่ะ
พอเห็นโอ่ง ฝาโอ่งไม้ และกระบวยตักน้ำ แบบนี้ ยิ่งนึกถึงบรรยากาศบ้านเรือนไทย สไตล์บ้าน ๆ และนอกจากที่นี่จะเป็นโฮมสเตย์และร้านอาหารแล้ว ก็ยังมีการสอดแทรก ART CAMP และกิจกรรมเวิร์คช็อป ทั้งการมัดย้อม งานเพ้นท์เซรามิก และกิจกรรมอื่น ๆ ที่ลูกค้าสนใจ (กิจกรรมเวิร์คช็อป ไม่ได้มีทุกสัปดาห์ แต่จะจัดก็ต่อเมื่อมีลูกค้าแจ้งความจำนงค์เข้ามาค่ะ)
เอาล่ะ มาเริ่มเรื่องของกินกันเลยดีกว่า เดินทัวร์ร้านกันมาจนหนำใจ ก็มานั่งสั่งรายการอาหาร ที่นี่มีอาหารหลากหลายอย่างมาก (ผึ้งเห็นแล้วไม่รู้จะสั่งอะไรก่อนดี) ส่วนมากจะเป็นอาหารสไตล์ไทย ๆ และตกแต่งได้สวยงาม เช่น หลนปลากุเลาหอม ดอกขจรผัดวุ้นเส้น หอยจ๊อปูอึ๋ม พะโล้ไข่เค็ม ปลาค้าวแดดเดียว ย้ำขมิ้นขาว และเครื่องดื่มชื่นใจก็มี เช่น น้ำมะพร้าวสด อัญชันน้ำผึ้งมะนาว
มาดูกันเลยดีกว่า ว่าที่ผึ้งสั่งไปจะน่าทานขนาดไหน…
“หลนปลากุเลาหอม” รสชาติจะคล้าย ๆ หลนเต้าเจี้ยว หวาน ๆ เค็ม ๆ เข้มข้นมาก ทานคู่กับผักสดตามฤดูกาล เป็นเมนูที่เฮลท์ตี้จริง ๆ ได้ประโยชน์จากผักสดหลายชนิดเลยทีเดียวค่ะ
“ดอกขจรผัดวุ้นเส้น” เมนูนี้ไม่ค่อยเห็นที่อื่น อาจดูแปลกแต่อร่อยดีค่ะ ส่วนผสมหลัก ๆ ก็มีดอกขจร พริก วุ้นเส้น กุ้ง ปลาหมึก และก้ามกุ้ง
“หอยจ๊อปูอึ๋ม” มาแบบชิ้นใหญ่ ๆ เนื้อแน่น ๆ อร่อยเต็มปากเต็มคำ ทอดมาได้ดีไม่อมน้ำมัน ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ และมีน้ำจิ้มออกรสหวานนิด ๆ รสชาติลงตัวดีค่ะ
“ปลาค้าวแดดเดียว” โรยมาด้วยกระเทียมเจียว เนื้อปลากรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟมาพร้อมน้ำปลาพริกและน้ำจิ้มซีฟู้ด ให้รสชาติคนละแบบ แต่ไม่ว่าจะจิ้มอันไหน ก็อร่อยเด็ดทั้งคู่เลยค่ะ
“ยำขมิ้นขาว” เนื้อกุ้งกับหมูสับเข้ากันได้ดีกับขมิ้นขาวที่กรอบ หอม รสชาติเผ็ดซ่า และเย็นอ่อน ๆ เมนูนี้ถือได้ว่าเป็นเมนูสำหรับคนเฮลท์ตี้ที่รักสุขภาพ เพราะว่าขมิ้นขาวนั้น มีคุณสมบัติรักษาโรค และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ด้วยค่ะ
“พะโล้ไข่เค็ม” น้ำพะโล้จะมีความเข้มข้น รสชาติออกหวาน ๆ เค็ม ๆ และมีความมันจากไข่เค็มด้วย ทั้งยังมีเต้าหู้ชิ้นใหญ่ ๆ หมูสามชั้นกรุบ ๆ อร่อยมาก ๆ ถือได้ว่าเป็นเมนูไข่พะโล้ที่แปลกใหม่ทีเดียว
ส่วนเครื่องดื่มดับร้อน ผึ้งก็สั่ง “อัญชันน้ำผึ้งมะนาว” ที่ทำให้สดชื่น ได้ทั้งรสหวาน ๆ และรสเปรี้ยว ๆ จะดื่มแบบแยกชั้น หรือจะคนไปเลยก็จะได้รสชาติที่ผสมผสานกันลงตัว
สำหรับอาหารแต่ละเมนู นอกจากจะรสชาติอร่อยแล้ว เมนูที่ทานก็จะออกแนวสไตล์อาหารไทยที่มีพวกผักสมุนไพรประกอบอยู่ในแต่ละเมนูด้วย มีประโยชน์ต่อสุขภาพจริง ๆ และทางร้านยังประดับตกแต่งแต่ละจานได้น่าทานมากเลยค่ะ
เอาล่ะที่ทานไปยังไม่จบนะคะ ผึ้งขอนำทัวร์ต่อ เดินไปยังชุมชนแถบข้าง ๆ บ้านตานิด ก็จะเจอกับร้านก๋วยเตี๋ยวร้านหนึ่งซึ่งผึ้งสัมผัสได้ว่าต้องอร่อยแน่ ๆ เพราะลูกค้าหนาแน่นมาก ชื่อร้านว่า ‘ก๋วยเตี๋ยวลูกพ่อรวย’ เป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อ/หมูน้ำตกสูตรมอญค่ะ (ตามที่ได้เล่าประวัติไว้ด้านบน ชุมชนคนแถบนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวมอญอพยพมาค่ะ) เจ้าของร้านเล่าว่าได้รับมรดกตกทอดทางอาชีพก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นมาจากรุ่นคุณพ่อ คือ คุณสำรวย นามวงษ์ ร้านจึงชื่อลูกพ่อรวย ซึ่งคุณพ่อได้ขายก๋วยเตี๋ยวมาตั้งแต่แถวนี้ยังเป็นตลาดน้ำบ้านกระแซง คนเก่าแก่เชื้อสายมอญแถวนี้จะรู้จักและคุ้นหูเป็นอย่างดี แต่พอมีความเจริญคืบคลานเข้ามา ชาวบ้านแถวนี้ก็ต่างเปลี่ยนอาชีพการทำมาหากินไปคนละทาง แต่คุณพ่อไม่ยอมเปลี่ยน ยึดอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวตั้งแต่พายเรือขาย จนสุดท้ายก็ขึ้นมาขายบนบก กลายเป็นมรดกตกทอดมาสู่รุ่นลูกจนถึงทุกวันนี้
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อน้ำตกร้านนี้สูตรเข้มข้นดั้งเดิมจริง ๆ ด้วยเนื้อสดที่นุ่ม เนื้อเปื่อยก็กำลังดี พร้อมด้วยลูกชิ้นเนื้อแท้ ๆ น้ำซุปก็สูตรเฉพาะ หอมกลิ่นเครื่องเทศ ใส่ก้านคะน้า ทำให้ก๋วยเตี๋ยวร้านลูกพ่อรวยร้านนี้มีรสชาติกลมกล่อมที่ไม่เหมือนใคร
หรือท่านใดไม่รับประทานเนื้อทางร้านก็มีบริการก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตกด้วยนะคะ บอกคำเดียวว่าแซ่บจริง
ที่ร้านใส่หลายอย่างมาก มีทั้ง ม้าม เอ็นตุ๋น ตับ ไส้ เนื้อสด เนื้อเปื่อย ลองชิมน้ำซุปดู แทบจะไม่ต้องเติมเครื่องปรุงอะไรเลย ถ้าชอบเผ็ดก็เติมพริกป่นลงไปหน่อย ที่ร้านนี้พริกน้ำส้มพริกดองและพริกป่นเขาคั่วเองบดเองนะคะ อย่าเติมมากเกินเพราะพริกร้านนี้เผ็ดจริงๆ และมีแคบหมูกรอบ ๆ มาช่วยเพิ่มรสชาติของก๋วยเตี๋ยวให้น่ากินเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ขอตบท้ายต้วยขนมปังปิ้งราดนมข้นที่ร้านข้าง ๆ หน่อยนะคะ หวานอร่อยดีค่ะ
ถ้ามาช่วงเที่ยง อาจจะหาที่นั่งยากหน่อย เพราะหน่วยงานราชการแถวนี้นิยมมารับประทานก๋วยเตี๋ยวที่นี่กัน ร้านเริ่มขายตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนถึงช่วงบ่าย ๆ ถ้าใครผ่านมาละแวกนี้ ผึ้งก็ขอแนะนำให้ลองเข้าไปชิมก๋วยเตี๋ยวร้านลูกพ่อรวยร้านนี้ รับรองไม่ผิดหวังในรสชาติแน่นอนค่ะ
เป็นไงกันบ้างคะสำหรับสถานที่พักผ่อนวันหยุดแบบชิล ๆ ที่ผึ้งจัดให้ เต็มอิ่มทั้งท้อง ทั้งวิว บรรยากาศ สวยงามสงบ ร่มรื่น สำหรับใครที่จะมาพักแบบค้างคืนที่บ้านตานิดเลยก็ได้นะคะ จะได้เต็มอิ่มกับบรรยากาศสุด ๆ ทั้งวันไปเลย เรียกได้ว่ามาที่นี่ที่เดียว ครบ!
จริง ๆ แล้วสมัยก่อนแถบท่าน้ำที่ไม่ไกลจากร้านบ้านตานิดจะมีตลาดน้ำอยู่ด้วย ก็คือตลาดน้ำบ้านกระแซงนั่นเองค่ะ แต่ตอนนี้ก็ได้ยุบไปหมดแล้ว สาเหตุมาจากความเจริญที่มาแทน การมีถนนตัดผ่านทุกเส้นทาง ทำให้อะไร ๆ หลาย ๆ อย่างเปลี่ยนแปลงไป แต่อย่างไรก็ตาม ที่อำเภอสามโคกแห่งนี้ก็ยังมีการสัญจรกันทางน้ำให้เราเห็นกันอยู่ มีการใช้ชีวิตริมน้ำ ได้เห็นถึงวิถีชาวบ้าน ร่มเย็นและสงบสุข ใครที่ชอบสไตล์แบบนี้ก็ขอบอกเลยว่าพลาดไม่ได้กับที่แห่งนี้นะคะ
กรอบอร่อยได้คุณค่า “ผึ้ง” แบรนด์ของคนรุ่นใหม่
Cooking by Bee