ความแตกต่างระหว่างคาร์โบไฮเดรต ชนิดดีและไม่ดี

ความแตกต่างระหว่างคาร์โบไฮเดรต ชนิดดีและไม่ดี

คาร์โบไฮเดรตชนิดดีหรือคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน คือ คาร์โบไฮเดรตหรืออาหารประเภทแป้งที่ไม่ผ่านกระบวนการขัดสี หรือแทบจะไม่ผ่านกรรมวิธีดัดแปลงใด ๆ มาเลย ซึ่งก็แน่นอนว่า คาร์โบไฮเดรตชนิดนี้จะคงคุณค่าสารอาหารไว้อย่างเต็มเปี่ยม ร่างกายก็จะได้รับคุณประโยชน์จากแป้งชนิดนี้เข้าไปเต็ม ๆ โดยที่แทบไม่กระทบไปถึงระดับน้ำตาลในเลือด โดยคาร์โบไฮเดรตชนิดดีพบได้ในข้าวและแป้งไม่ขัดสี ถั่ว ธัญพืช ผักใบเขียว พืชที่มีฝัก มัน โฮลวีท โฮลเกรน รวมทั้งซีเรียลและพาสต้าโฮลวีท

(รูปประกอบจาก www.freepik.com)

ข้อดีของคาร์โบไฮเดรตชนิดดี ได้แก่ ไฟเบอร์สูงจากการไม่ผ่านกระบวนการดัดแปลง ทำให้ยังคงอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ร่างกายก็จะย่อยคาร์โบไฮเดรตชนิดดีอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ดูดซึมแร่ธาตุและวิตามินได้อย่างครบถ้วน กระบวนการเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลของคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนเกิดขึ้นช้า เท่ากับร่างกายจะมีพลังงานต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ กินเข้าไปก็อิ่มอยู่ท้องได้นาน ทำให้ไม่รู้สึกหิวบ่อย ขณะที่ให้พลังงานสูงในขณะที่ให้แคลอรีน้อย นอกจากนั้นยังมีค่าดัชนีน้ำตาล (GI) ต่ำ โดยค่านี้จะเป็นตัวบ่งชี้ว่า อาหารดังกล่าวมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดมากน้อยแค่ไหน ในระยะเวลา 1 – 2 ชั่วโมง ซึ่งค่าดัชนีน้ำตาล (GI) ของคาร์โบไฮเดรตชนิดดีเกือบทุกชนิดก็อยู่ในเกณฑ์ต่ำ หมายความว่า คาร์โบไฮเดรตชนิดดีจะส่งผลกระทบไปถึงระดับน้ำตาลในเลือดและระดับอินซูลินได้น้อยจนเกือบไม่เกิดปัญหาสุขภาพใด ๆ นอกจากนี้คาร์โบไฮเดรตชนิดดียังอัดแน่นไปด้วยวิตามินจากธรรมชาติ, เกลือแร่, เอนไซม์ และไฟโตนิวเทรียนท์ชนิดต่าง ๆ ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดโรคเรื้อรังและบำรุงสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังมีความหนาแน่นของพลังงานต่ำ (Low Energy-Density) หมายถึงกินเข้าไปเยอะก็ยังให้พลังงานแคลอรีกับร่างกายน้อย แต่อิ่มอยู่ท้องมากกว่า ไม่เหมือนอาหารที่มีความหนาแน่นของพลังงานสูง เช่น ของหวานหรือน้ำหวานต่าง ๆ ที่กินยังไม่ทันอิ่มก็ให้แคลอรีสูงมาก (ข้อมูลจาก www.health2click.com)

(รูปประกอบจาก www.freepik.com)

คาร์โบไฮเดรตชนิดไม่ดีหรือคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เป็นคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านกระบวนการขัดสี ปรุงแต่ง ดัดแปลง เพื่อให้มีรสชาติที่อร่อยขึ้น กินง่ายขึ้น และคาร์โบไฮเดรตเหล่านี้มักจะถูกแต่งเติมจนร่างกายต้องได้รับสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ อย่างสารกันบูด สีและกลิ่นสังเคราะห์ รวมทั้งน้ำตาลที่ยิ่งกระตุ้นให้คาร์โบไฮเดรตเหล่านี้เปลี่ยนรูปเป็นน้ำตาลได้เร็วขึ้นด้วย ส่งผลกระทบไปถึงระดับน้ำตาลในเลือดของร่างกายให้พุ่งสูง เป็นสาเหตุของโรคอ้วน และโรคเรื้อรังอื่น ๆ ที่อันตรายต่อสุขภาพ ตัวอย่างของคาร์โบไฮเดรตชนิดไม่ดีก็เช่น แป้งขัดสีทุกชนิด, ข้าวขาว, ขนมปังขาว, แพนเค้ก, ขนมเค้ก, พาสต้า (ขัดสี) และขนมทำจากแป้งอย่างวาฟเฟิล, ของหวาน, น้ำหวาน, ลูกอม, ขนมขบเคี้ยว, น้ำอัดลม, นม เป็นต้น

(รูปประกอบจาก www.freepik.com)

ข้อเสียของคาร์โบไฮเดรตชนิดไม่ดี ได้แก่ เปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ง่าย เกือบจะทันทีที่กลืน ผู้ที่กินจะรู้สึกสดชื่นเหมือนกระตุ้นพลังงานในร่างกายขึ้นมาทันที อย่างไรก็ตาม พลังงานจากน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นนี้หากใช้ไม่หมดจะถูกสะสมอยู่ในร่างกาย โดยการแปรสภาพเป็นไขมันสะสมตามส่วนต่างๆของร่างกาย นำไปสู่โรคอ้วนได้นอกจากนี้ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูง จะทำให้ตับอ่อนเร่งผลิตฮอร์โมนอินซูลินออกมาเพื่อปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล ซึ่งกรณีที่น้ำตาลในเลือดสูงประจำ อาจนำไปสู่ภาวะอินซูลินมากเกินความต้องการ เมื่อน้ำตาลในเลือดต่ำอาจเกิดอาการวูบเอาได้ นอกจากนี้คาร์โบไฮเดรตชนิดไม่ดียังอุดมไปด้วยแคลอรีและความหนาแน่นของพลังงานที่มาก ซึ่งพลังงานนี้จะผันตัวเป็นน้ำตาลสะสมอยู่ในร่างกาย กลายเป็นชั้นไขมันรอบเอว ไขมันรอบต้นขา ต้นแขน และบั้นท้ายได้ (ข้อมูลจาก kapook.com)

จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าคาร์ไฮเดรตชนิดไม่ดี สามารถเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้อย่างรวดเร็ว และน้ำตาลดังกล่าวส่วนเกินจะถูกเก็บไว้ในรูปไขมันตามอวัยวะต่าง ๆ และผิวหนัง ส่งเสริมให้เกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคอ้วน, โรคเบาหวาน, โรคมะเร็ง, โรคหัวใจ อีกทั้งอาหารเหล่านี้ยังถูกพบว่ามีไขมันทรานส์อยู่จำนวนไม่น้อย ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้เช่นกัน

น้ำมันพืชตราผึ้ง ปลอดไขมันทรานส์

“ผึ้ง” กรอบอร่อยได้คุณค่า แบรนด์ของคนรุ่นใหม่

Cooking By Bee

Similar Posts