ร้านจันทน์หอม “อร่อยจนต้องบอกกัน”

ผึ้งพาชิม “หรอยจังฮู้” กับอาหารใต้ง่ายๆ สไตล์เมืองคนดี
ลิ้มรสกันได้ที่ “ร้านจันทน์หอม” ที่จริงแล้ว “จันทน์หอม” คือชื่อของพันธุ์ไม้มงคลชนิดหนึ่ง ซึ่งหมายถึงไม้จันทน์ ที่มีคุณลักษณะส่งกลิ่นหอม ด้วยน้ำมันหอมระเหยที่ต้นไม้ชนิดนี้มีค่ะ ร้านนี้เปิดมานานมากกว่า 10 ปี
เจ้าของร้านเป็นคนใต้ จังหวัดสุราษฏร์ธานีค่ะ ส่วนพิกัดร้านอยู่แถวซอย รามคำแหง 21 เลียบทางด่วนรามอินทรา-เอกมัย
ร้านนี้มีเมนูที่หลากหลาย เมนูที่เราไม่เคยทานก็ได้ทานค่ะ อาหารอร่อยรสชาติจัดจ้าน ตื่นตาตื่นใจ อิ่มท้องไปทั้งวัน ถ้าพูดถึงรสชาติ ร้านนี้ค่อนข้างปรุงได้ถึงเครื่องจริงๆ รสชาติเด็ดดวงถึงใจ แบบอาหารใต้แท้ๆ ทั้งเผ็ดร้อน เค็ม และเปรี้ยว และเนื่องจากอาหารภาคใต้มีรสชาติที่จัดจ้าน เขาจึงนิยมทานคู่กับผักเคียง เพื่อช่วยลดความเผ็ดร้อน
สำหรับวัตถุดิบในการปรุงอาหาร จำพวกพวกซีฟู้ดนั้น ทางร้านได้คัดสรรมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู ปลา ส่งตรงมาจาก จ.สุราษฎร์ธานีแบบสดๆ เป็นๆ เลยค่ะ
เราเริ่มต้นด้วยต้มยำขาหมูใบกระเจี๊ยบ, สะตอผัดกะปิหมูสามชั้น, ผัดหมูโค, หลนปูทะเล, ยำผักกูด, แกงคั่วหอยขม และทางร้านเขายังเสิร์ฟแตงโมหวาน ฟรี! ตอนท้ายด้วยนะคะ

บรรยากาศของร้านโปร่งสบาย มีให้เลือกนั่ง ทั้งด้านในที่มีแอร์ หรือด้านนอกที่เป็นพื้นที่รับลมเบาๆ ชิลๆ สบายไปอีกแบบ

1. ต้มยำขาหมูใบกระเจี๊ยบ
เคยทานแต่ดอกกระเจี๊ยบ ใบกระเจี๊ยบก็คงแปลกดีนะคะ แต่พอทานไปแล้ว รสชาติได้ใจ เปรี้ยวนิดๆ นำทานพร้อมกับขาหมูอร่อยจนต้องบอกต่อเลยค่ะ
ได้ประโยชน์ ทั้งโปรตีนและคุณค่าของกระเจี๊ยบ ที่ให้สรรพคุณในเรื่องการระบายท้องค่ะ

2. สะตอผัดกะปิหมูสามชั้น
จานนี้ถือเป็น Signature Dish ของที่นี่ได้เลยนะคะ รสชาติอร่อยเด็ด เป็นเพราะ นำสะตอข้าวจากสุราษฎร์ฯ เม็ดใหญ่ อวบ กรอบ มัน มาแกะผัดใส่หมูสามชั้น แปลกดี เพิ่งได้ทานที่นี่เป็นครั้งแรกเลยค่ะ
ปกติเราจะทานกับกุ้ง แต่ครั้งนี้ผึ้งขอเป็นหมูสามชั้นเลยแล้วกัน ปรุงรสชาติด้วยการใส่กะปิ ได้ความเค็ม หอม คู่กับสะตอ ได้รสถูกปากอร่อยจริงๆ กลิ่นก็ไม่ฉุนแรงค่ะ
เขาเสิร์ฟมาพร้อมผักสด ไว้ทานเคียงกัน ลดความเผ็ดร้อนได้ค่ะ

3. ผัดหมูโค
กรอบนอก นิ่มใน เค็ม หวาน ลงตัวดีมากๆ เป็นหมูสามชั้นที่ทางร้านเลือกสรรมาเป็นอย่างดี เป็นแบบหนังบางๆ หั่นมาเป็นชิ้นพอดีคำ ถูกคั่วปรุงรสชาติมาแบบแห้งๆ ไม่เลี่ยน และมีหอมกับกระเทียมโรยหน้ามาเพิ่มความหอม ส่งชิ้นหมูเข้าปากเคี้ยวนุ่ม หนุบหนับปาก ทั้งเนื้อและหนัง ออกรสชาติเค็มๆ อร่อยดีค่ะ

4. หลนปูทะเล
อร่อยสุดๆ กับซีฟู้ดจานเด็ดของหลนปูทะเล ที่อร่อยอันดับต้นๆ จากที่เคยทานมา กระดองปู และก้ามปู เนื้อปูแน่น สด ถูกใจจริงๆ พอเราเห็นก็ตื่นตาตื่นใจขึ้นมาทันที
ปูตัวใหญ่มาก ก้ามใหญ่ๆ เขาทุบเปลือกมาแล้ว ทำให้แกะทานได้ง่ายมากค่ะ ได้รสชาติครีมๆ หวานๆ มันๆ ทานกับผัดสดช่วยลดความเลี่ยนได้มาก ใครชอบกระดองปูพร้อมไข่ เมนูนี้ผึ้งแนะนำเลย

5. น้ำพริกกุ้งเสียบ
ที่ขาดไม่ได้เวลามาทานอาหารใต้ก็ต้องเป็นน้ำพริกกุ้งเสียบ จานนี้อร่อยมาก รสเค็ม เปรี้ยว เผ็ด หวานนิดๆ กลมกล่อมสุดๆ มาพร้อมผักสด ผักลวกหลากหลายชนิด เป็นเครื่องเคียงให้เลือกทานตามใจชอบเลยค่ะ
ได้กลิ่นหอมของกะปิ ที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับกุ้งเสียบตัวโตๆ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ซักจาน ก็อร่อย ฟินมากเลยค่ะ

6. ยำผักกูด
เมนูนี้มีหน้าตาสวยงาม น่าทานเป็นอย่างมากค่ะ เขาจัดกลุ่มผักไว้ตรงกลาง โรยด้วยเครื่องเคียงและพริกแห้ง ด้านข้างตกแต่งด้วยไข่ต้มผ่าซีก ส่วนรสชาติคงไม่ต้องพูดถึงนะคะ…ว่าอร่อยขนาดไหน
น้ำยำให้รสชาติของความเปรี้ยว เค็ม และเผ็ดเล็กน้อย เข้ากันผักกูด ที่ให้รสหวาน อร่อยเป็นที่สุด อีกอย่างที่นี่เขาผัดผัดกูดได้กรอบอยู่ทนดีมากค่ะ เป็นอีกเมนูเด็ดที่ไม่ควรพลาดเลย

7. แกงคั่วหอยขม
ใครชอบหอยขมบ้างคะ? ห้ามพลาดเลย สำหรับเมนูนี้ หอยขมตัวใหญ่ รสชาติเข้มข้น จะออกเค็ม เผ็ด มัน หอมกะทิดีเหลือเกิน เรารู้สึกได้ถึงกะทิผสมพริกแกงที่คั่วจนหอม กลมกล่อม เข้ากันได้ดีทั้งน้ำแกง หอยขม และใบชะพลู
ผึ้งขอบอกหน่อยนะคะ ว่าใบชะพลูนี้มีประโยชน์มาก ช่วยบำรุงธาตุ ขับลม แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ และช่วยในการขับเสมหะด้วยค่ะ

8. ลูกเดือยต้มกะทิ
ตบท้ายกันด้วยเมนูขนมหวานไทยๆ อย่าง “ลูกเดือยต้มกะทิ” รสชาติหวานมัน ทานง่าย อร่อยถูกใจผึ้งมาก
และเจ้าลูกเดือยเนี่ยมีประโยชน์มากๆ นะคะ เพราะช่วยลดคอเลสเตอรอล ป้องกันโรคเหน็บชา และช่วยบำรุงกำลังได้ดีรสชาติอร่อย แถมยังได้ประโยชน์ดีๆ จากลูกเดือยอีกด้วย ไม่ทานไม่ได้แล้วนะคะ