กิน เที่ยว สัมผัสเอกลักษณ์ไทย เล่นน้ำสนุกที่บางลำพู

วันนี้อากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส นั่งนึกอยู่นานว่าจะไปเที่ยวไหนดีหนาออเจ้า อ๊ะ…เอาใกล้ ๆ แล้วกัน ผึ้งชวนไปบางลำพูดีกว่า ได้ทั้งไหว้พระ กิน เที่ยว ชมบรรยากาศตลาดเก่าย่านบางลำพู แถมใกล้สงกรานต์แล้วขอเดินไปเที่ยวตรอกข้าวสารด้วยแล้วกัน มาทั้งทีก็เอาให้คุ้มเนอะ

แผนที่แสดงสถานที่และร้านค้าต่าง ๆ ในย่านบางลำพู (Cr. พิพิธบางลำพู)

ที่มาของชื่อบางลำพู เพราะย่านนี้ในอดีตมีต้นลำพูอยู่มาก คนจึงเรียกบริเวณนี้ว่า “บางลำพู” แม้ในปัจจุบันนี้จะไม่เหลือต้นไม้ชนิดนี้อยู่ในย่านนี้แล้ว แต่คนรุ่นหลังก็รู้จักบางลำพูในฐานะแหล่งค้าขายเก่าแก่ที่มีห้างบางลำพูสาขาแรกตั้งขึ้นค่ะ

มาเริ่มการทัวร์ด้วยการไหว้พระที่วัดชนะสงคราม ซึ่งวัดนี้สร้างตั้งแต่สมัยอยุธยาเลยนะออเจ้า เดิมชื่อ “วัดกลางนา” เพราะอยู่กลางทุ่งนา แต่เหตุที่เป็นชื่อวัดชนะสงคราม เพราะช่วงรัชกาลที่ 1 วัดนี้เป็นกำลังสำคัญในการรบกับพม่า และได้รับชัยชนะถึง 3 ครั้ง จึงทรงเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร”

ซึ่งวัดนี้เป็นหนึ่งในเส้นทางไหว้พระ 9 วัด ที่คนนิยมมาไหว้กันเป็นจำนวนมากในช่วงวันปีใหม่หรือวันสงกรานต์ เนื่องจากมีความเชื่อว่าจะช่วยให้สามารถเอาชนะอุปสรรคหรือศัตรูเหมือนอย่างชื่อวัดนั่นเอง

 …ใครที่อยากเอาชนะปัญหาอุปสรรค โดยเฉพาะเรื่องการงานและธุรกิจ ก็มาไหว้พระกันที่วัดชนะสงครามนะเจ้าคะ

อิ่มอกอิ่มใจกับการไหว้พระแล้ว (แต่ยังไม่อิ่มท้อง) ก็มาเดินเที่ยวที่ถนนข้าวสารกันต่อ คงมิมีใครในพระนครที่มิรู้จักที่นี่ เพราะถือว่าเป็นแลนมาร์คสำคัญในการเล่นน้ำสงกรานต์ แต่ที่นี่ก็ไม่ได้มีดีแค่ไว้เล่นน้ำสงกรานต์เท่านั้น เพราะเราจะได้เห็นฟะรังคีมากโข (เหล่าชาวต่างชาติ) ใครที่อยากฝึกภาษาก็ไม่ต้องไปไหนไกล เพียงแค่อาสาเป็นไกด์พาทัวร์หรือคอยบอกทางพวกเขา เราก็จะได้ทั้งภาษา เพื่อนชาวต่างชาติ และเห็นถึงวัฒนธรรมของพวกเขาอีกด้วยค่ะ

บ้านตรงนี้ก็เป็นแบบย้อนยุค ได้กลิ่นอายความโบราณเบา ๆ

แถวข้าวสารก็มีของขายมากอยู่มากเหมือนกันนะ เช่น ร้าน YGS เซรามิก ก็น่าสนใจไม่น้อย เป็นพวกจานชาม ของใช้ที่เป็นเซรามิก ลายก็สวยงาม แถมราคาก็น่ารักน่าคบหามาก ๆ

ร้านขนมปังพรชัยในตรอกข้าวสารก็ยิ่งเด็ด มาแล้วต้องซื้อกลับบ้าน ซึ่งร้านนี้เฮียเจ้าของร้านบอกว่าขายมา 50 ปีแล้ว สมัยก่อนเป็นร้านขายก๋วยเตี๊ยวเนื้อ พอ 20 ปีหลัง ก็เปลี่ยนมาขายขนมปัง เหตุเพราะค้าขายสิ่งไหนถูกโฉลก เฮียก็จะขายสิ่งนั้นแล

เดินวนไปจนไปเจอร้าน “ขนมฝักบัวโบราณ” หน้าตาสวยสีเขียวสดใส กลิ่นก็หอมน่าทานยิ่งนัก เราก็ไม่รีรอวิ่งเข้าชาร์ตสั่งมาทานทันที เนื้อขนมเหนียวนุ่ม ได้กลิ่นใบเตย และตรงส่วนขอบก็มีความกรอบที่เกิดจากการทอดอย่างดี จะไม่ให้อร่อยได้อย่างไรเล่า ก็คุณลุงวุฒิและคุณป้าสมัย แกขายกันมาตั้ง 60 ปีแล้วค่ะ

นี่ก็สายแล้วนะ ข้าวยังไม่ตกถึงท้องเลย (ได้ข่าวว่าพึ่งกินขนมฝักบัวมา -_-) อยากแนะนำร้าน “ปาท่องโก๋” เจ้าดัง ! เหลือเกิน เพราะมีเมนูอาหารคาวหวานครบองค์ แต่เมนูที่เป็นที่นิยมและการันตีความอร่อยจากการเข้าชิงมิชลินสตาร์ ก็คือ “ปาท่องโก๋ย่าง”

เสิร์ฟมาพร้อมสังขยาและมะพร้าวอ่อนราดมาแบบเติม ๆ อร่อยกรอบนอกนุ่มในสุด ๆ และที่สำคัญไม่อมน้ำมันนะจ๊ะสาว ๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูฟิวชั่น เช่น ปาท่องโก๋ยำทะเลทรงเครื่อง และปาท่องโก๋อีกหลากหลายแบบให้ได้ลิ้มชิมรสกัน

และยังมีเมนูอาหารคาว เช่น บะหมี่เกี๊ยวกุ้งน้ำ ก๋วยเตี๋ยวหมูกรอบไข่ต้ม ก๋วยเตี๋ยวทะเล ฯลฯ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าลูกค้าแน่นขนาดไหน โดยเฉพาะชาวจีนนี่ยิ่งเยอะ อาจเป็นเพราะมีเมนูออกไปทางชาติจีนส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่ลืมที่จะใส่เอกลักษณ์ความเป็นไทยลงไปด้วย จนประยุกต์ได้หลากหลายเมนู น่าทาน และถูกอกถูกใจทั้งไทยและต่างชาติเช่นนี้

หนังท้องตึงก็อย่าปล่อยให้หนังตาหย่อนนะคะ รีบเดินทัวร์ต่อ คติของเราคือกินเพื่ออยู่และอยู่เพื่อกินด้วย แถวนี้ก็ถือว่าเป็นตลาดที่คึกคัก เพราะมีของขายระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นของกินเล่น ไปจนกระทั่งดอกไม้ พวงมาลัย ดู ๆ ไปก็นึกถึงแม่การะเกดเลยนะเจ้าคะ

ที่เห็นบ่อย ๆ ตามข้างทางบางลำพู คงไม่พ้นร้านขายชุดนักเรียน อย่างตราสมอ สมใจนึก น้อมจิตต์ หรือร้านชัยรัตน์ ที่ต่างขายชุดนักเรียนมาตั้งแต่สมัยแฟนฉันยันปัจจุบัน ได้กลิ่นอายของยุค 90’ เลยจ้า

เดิน ๆ อยู่เจอของดี เห็นเขาทอดถั่วไว้เยอะมาก ร้าน “ถั่วทอด-ถั่วกรอบแก้ว” เขาขายมา 40 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่ยังเป็นเตาถ่านจนมาทอดในกระทะแบบปัจจุบัน น่าทานมากทีเดียว

ห้างเก่านิวเวิลด์ ตั้งฮั่วเส็ง ที่มีน้องปลาให้เราไปให้อาหารกันได้ ปัจจุบันได้ปิดไปแล้วนะคะ
พอมาถึง 4 แยก ข้ามไปเจอร้านข้าวตังทรงเครื่อง “แม่ขิต” ที่ขายอยู่กงนี้เป็นเวลากว่า 70 ปี (นานโขเลยนะคะเนี่ย)

มี 4 หน้าให้เลือก คือ เมี่ยงลาว พริกเผา มะพร้าว และหน้าตั้ง เป็นสูตรโบราณ ที่หาทานได้ยากไม่เหมือนข้าวตังที่ใส่ถุงวางขายทั่วไปนะจ๊ะ เพราะเป็นสูตรที่มาจากในวังค่ะ

และถ้ามาแถวนี้ อีกอย่างที่ขาดไม่ได้ก็คือ ขนมเบื้องแม่ประภา” ห้าง ต.เง๊กชวน เป็นขนมเบื้องที่ไม่ใช่แบบทั่วไป แต่จะเป็นสูตรโบราณ ไส้อัดมาแน่น ๆ มีไส้เค็มและหวาน ไส้เค็มเป็นมะพร้าวขูดฝอยผัดกับกุ้งฝอย ส่วนไส้หวานเป็นมะพร้าวเชื่อม ลูกชิดเชื่อม และน้ำตาลกวน กรอบอร่อย กลิ่นหอมเย้ายวนใจสุด ๆ

หน้าร้อนแบบนี้ เห็นจะพลาดเมนูนี้มิได้ “ข้าวแช่แม่ศิริ” หอม เย็น ถูกใจทีมผึ้งมาก เหมาะกับอากาศร้อนอบอ้าวและเทศกาลสงกรานต์มั่ก ๆ อ่อ..เจ้าของร้านบอกวิธีทานที่ถูกต้องมาด้วยนะคะ ต้องตักเครื่องเคียงทานก่อน แล้วค่อยตามด้วยข้าวกับน้ำลอยดอกไม้ ถึงจะอร่อยแบบไทยโบราณนะเจ้าคะ

เดินวนไปจนถึงถนนพระอาทิตย์ ก็ขอแวะชม “พิพิธบางลำพู” ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ ประยุกต์การแสดงวัตถุและการเล่าเรื่องเชิงประวัติศาสตร์ ซึ่งเข้ากับการแสดงวิถีชุมชนบางลำพูเดิมได้อย่างน่าสนใจ ใครแวะมาก็อย่าลืมเข้าไปดูสักหน่อยนะคะ

มาบางลำพูห้ามพลาด “ป้อมพระเมรุ” เลยนะคะ ป้อมนี้สร้างมาตั้งแต่รัชกาลที่ 1 และยังมีบริเวณโดยรอบที่เป็นสวนสันติชัยปราการอีกด้วย ใครอยากชมประวัติศาสตร์สวยงาม ก็มาเซลฟี่ เดินเล่น ชิค ๆ กันได้นะออเจ้า

เผลอประเดี๋ยวเดียว ก็ถึงเพลาชาย (บ่ายโมง) แล้วหรือนี่ ผึ้งยังมิได้ทานข้าวกลางวันเลย มากงนี้ทั้งที (ถนนพระอาทิตย์) ก็แวะร้าน “คาริมโรตีมะตะบะ” หน่อยแล้วกัน

เมนูอาหารก็มีมากมาย ที่แนะนำก็มี มะตะบะไก่ สลัดแขก และโรตีกับแกงเขียวหวาน ทุกจานอร่อยสมคำร่ำลือเลยค่ะ

สิ่งหนึ่งที่ผึ้งสัมผัสได้จากร้านอาหารหรือร้านค้าหลาย ๆ ร้าน ก็คือกลิ่นอายความเป็นไทยผสมผสานกับหลายเชื้อชาติ บางร้านก็ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหรือแม้กระทั่งเปลี่ยนของที่ขายเป็นอีกประเภทเลย เพราะโลกปัจจุบันนี้หมุนไวมาก บางร้านได้ปรับให้เข้ากับยุคสมัย อะไรที่ถูกโฉลก เป็นความเชื่อ หรือเห็นว่าดี พวกเขาก็จะเปลี่ยนแปลงและปรับปรุง จนออกมาเป็นย่านบางลำพูที่เราเห็นในปัจจุบันนี้ แต่บางร้านก็ยังคงความคลาสสิกและเอกลักษณ์ของตัวร้านเอาไว้ชวนให้นึกถึงวันวาน

(ฝรั่งกับรถตุ๊ก ๆ เป็นของคู่กันนะจ๊ะ)

จบทริปกิน เที่ยว ทัวร์ของเราไปด้วยความอิ่มอร่อย สงกรานต์ปีนี้ใครที่ยังไม่มีแพลนไปไหน และอยากได้บรรยากาศกลิ่นอายไทย ๆ บวกกับเทศ ๆ (ต่างประเทศ) ได้อย่างลงตัว ก็ขอแนะนำบางลำพูเลยนะเจ้าคะ เพราะว่ามีของกินอร่อย ๆ มากมาย สินค้าหลากหลายประเภท ได้สัมผัสวัฒนธรรมไทยกับชาวต่างชาติ และได้เล่นน้ำสงกรานต์ด้วย ไม่ต้องไปไหนไกล ทิ้งความเครียดไว้ แล้วออกมาเที่ยวกันดีกว่าจ้า

กรอบอร่อยได้คุณค่า “ผึ้ง” แบรนด์ของคนรุ่นใหม่ 

Cooking by Bee

Similar Posts