เคล็ดลับแพทย์แผนไทยโบราณ กินตามธาตุเพื่อร่างกายแข็งแรง

เคล็ดลับแพทย์แผนไทยโบราณ กินตามธาตุเพื่อร่างกายแข็งแรง

ตามหลักสุขภาพตามแผนไทยโบราณนั้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารชนิดใดก็ตาม แม้แต่ต้ม ผัด แกง ทอด ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่นำมาปรุงซึ่งแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ธาตุใหญ่ ๆ ก็คือ ธาตุร้อนและธาตุเย็น ทั้งสองอย่างนี้ส่งผลต่อความสมดุลของร่างกาย และสามารถใช้เป็นแนวทางในการดูแลสุขภาพเบื้องต้นได้ด้วย จะเป็นอย่างไรนั้น ผึ้งมีความรู้ดี ๆ มาแนะนำค่ะ


การจะรู้ว่าร่างกายเราตอนนี้เป็นแบบใดนั้น ไม่ยากเลย เพียงแค่สังเกตอาการและความเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่กินอาหารเข้าไป ว่า อาหารที่กินเข้าไปนั้นทำปฏิกิริยาให้ร่างกายร้อนขึ้นหรือเย็นลงแค่ไหน หรือมีอาการผิดปกติอะไรบ้างที่ทำให้ป่วยบ่อย เมื่อเรามีอาการของธาตุใดที่มากเกนไป ก็ควรรับประทานอาหารในหมวดธาตุตรงข้ามให้มากขึ้นหน่อย เพื่อให้ร่างกายสมดุลนั่นเอง


ร้อนเกิน
ท้องผูก ปัสสาวะปริมาณน้อย สีเข้ม ออกร้อนท้องแสบท้อง รู้สึกร้อนแต่เหงื่อไม่ออก ร้อนในช่องปาก เหงือกอักเสบ เจ็บปลายลิ้น เจ็บคอ เสียงแหบ ปากคอแห้ง ริมฝีปากแห้ง มีแผลต่าง ๆ ในช่องปากด้านล่าง หิวมาก หิวบ่อย ตัวร้อน มือเท้าร้อน หน้าแดง มีสิวขึ้น ครั่นเนื้อครั่นตัว มีเส้นเลือดขอดตามส่วน เป็นต้น


เย็นเกิน
ท้องอืด จุก เสียด แน่น ปัสสาวะมีปริมาณมาก อุจจาระ ท้องเสีย หน้าซีด มีตุ่มหรือแผลในช่องปากด้านบน มือเท้าเย็น ชา หนาวสั่นตามร่างกาย ตาแฉะ ตามัว เสมหะมากแต่ไม่เหนียว สีใส ริมฝีปากซีด เฉื่อยชา เคลื่อนไหวช้า มือเท้าชาและเย็น เป็นต้น


ปรับสมดุลด้วยอาหารตามธาตุ

อาหารฤทธิ์ร้อน

  • กลุ่มคาร์โบไฮเดรต : ข้าวเหนียว ข้าวแดง ข้าวดำ สาลี ข้าวบาร์เลย์ เผือก มัน กลอย อาหารหวานจัด ขนมปัง ขนมกรุบกรอบ บะหมี่ซอง เป็นต้น
  • กลุ่มโปรตีน : เนื้อ นม ไข่ ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วลิสง ถั่วทอดทุกชนิด เห็ดโคน เห็ดหอม เห็ดหลินจือ เห็ดไค เห็ดขม เห็ดผึ้ง พวกโปรตีนจากพืชและสัตว์ที่หมักดอง เช่น เต้าเจี้ยว มิโสะ โยเกิร์ต ซีอิ๊ว กะปิ น้ำปลา ปลาร้า ปลาจ่อม ปลาเค็ม เนื้อเค็ม แหนม ไข่เค็ม เป็นต้น
  • กลุ่มไขมัน : น้ำมันพืช น้ำมันสัตว์ กะทิ เนื้อมะพร้าว งา รำข้าว จมูกข้าว เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นต้น
  • กลุ่มผักฤทธิ์ร้อน : กระชาย กะเพรา กุยช่าย กระเทียม ขิง ข่า ขมิ้น ผักชี ยี่หร่า โหระพา พริก พริกไทย แมงลัก ไพล ตะไคร้ ใบมะกรูด เครื่องเทศ ต้นหอม หอมหัวใหญ่ หอมแดง กะหล่ำปลี กระเฉด ผักกาดเขียว ผักโขม ผักแขยง คะน้า แคร์รอต ชะอม บีทรูท เม็ดบัว ไหลบัว รากบัว แปะตำปึง ใบปอ ใบยอ สาหร่ายทะเล สาหร่ายน้ำจืด ยอดเสาวรส หน่อไม้ เป็นต้น
  • กลุ่มผลไม้ฤทธิ์ร้อน : กล้วยเล็บมือนาง กล้วยไข่ กระเจี๊ยบแดง เสาวรส ขนุนสุก เงาะ ฝรั่ง ทุเรียน ทับทิมแดง น้อยหน่า มะตูม มะเฟือง มะไฟ มะแงว มะปราง มะม่วงสุก มะขามสุก มะละกอสุก ระกำ ลิ้นจี่ ลำไย ลองกอง ละมุด ลูกยอ สละ ส้มเขียวหวาน องุ่น เป็นต้น


อาหารฤทธิ์เย็น

  • กลุ่มคาร์โบไฮเดรต : น้ำตาล ข้าวขาว เส้นขาว วุ้นเส้น ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้องเหลือง เป็นต้น
  • กลุ่มโปรตีน : ถั่วขาว ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา ลูกเดือย เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดหูหนู เห็ดขอนขาว เห็ดลม เห็ดตาโล่ เห็ดตีนตุ๊กแก เป็นต้น
  • กลุ่มผักฤทธิ์เย็น : กะหล่ำดอก กวางตุ้ง ผักกาดฮ่องเต้ ผักกาดขาว ผักกาดหอม หยวกกล้วย ปลีกล้วย ก้านกล้วย กล้วยดิบ หัวไชเท้า ข้าวโพด ขนุนดิบ ดอกขจร ใบเตย ผักติ้ว ตังโอ๋ ตำลึง ถั่วงอก บัวบก สายบัว ผักบุ้ง บรอกโคลี บวบ ปวยเล้ง ผักปลัง ฟักทองอ่อน ยอดหรือดอกฟักทอง ยอดฟักข้าว ยอดฟักแม้ว ฟัก แฟง แตงต่าง ๆ เป็นต้น
  • กลุ่มผลไม้ฤทธิ์เย็น : กล้วยน้ำว้าห่าม กล้วยหักมุก แก้วมังกร กระท้อน แคนตาลูป ชมพู่ เชอรี่ แตงโม แตงไทย ทับทิมขาว ลูกท้อ มังคุด มะยม มะขวิด มะดัน มะม่วงดิบ มะละกอดิบ มะขามดิบ น้ำมะนาว น้ำมะพร้าว สับปะรด สตรอว์เบอร์รี สาลี่ ส้มโอ ส้มเช้ง แอปเปิล เป็นต้น


เรื่องของอาหาร ถ้าเลือกได้อย่างเหมาะสม และถูกต้องตามหลักโภชนาการ ก็สามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง ไม่ป่วยง่าย ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดีทีเดียวค่ะ ดังนั้นถ้าใครรู้สึกว่าร่างกายไม่ค่อยสมดุล มีอาการคล้ายธาตุร้อนเกิน หรือธาตุเย็นเกิน ก็ลองนำหลักการอาหารตามธาตุไปปรับใช้กันดูนะคะ

น้ำมันพืชตราผึ้ง ปลอดไขมันทรานส์

“ผึ้ง” กรอบอร่อยได้คุณค่า แบรนด์ของคนรุ่นใหม่

Cooking By Bee
ข้อมูลจาก ถอดรหัสสุขภาพ เล่ม 2, Kapook

Similar Posts