ร้าน Music Square
นอกจากมหาลัยมหิดลจะเป็นสถานศึกษาที่รวมปัญญาของแผ่นดินแล้ว น้อยคนนักจะรู้ว่ายังมีร้านอาหารบรรยากาศดีมาก ๆ ภายในมหาลัยแห่งนี้ ชื่อว่าร้าน “Music Square” โดยเน้น Concept ที่ว่า “อาหารดีมีคุณภาพ ราคาเหมาะสม ในบรรยากาศที่ดี มีที่นั่งสบายเพื่อประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ที่เข้าถึงสังคมชาวศาลายาและบุคคลทั่วไปได้เป็นอย่างดี” พูดไปก็อยากบอกว่าไปครั้งแรก และยังอยากจะไปอีกสักหลาย ๆ ครั้ง เพราะตกหลุมเสน่ห์ที่นี่เสียแล้วค่ะ ทั้งอาหารและบรรยากาศให้เกิน 100 ค่ะ
ก่อนอื่นมารู้จัก Music Square กันสักหน่อยนะค่ะ ร้าน Music Square ตั้งอยู่ในคณะดุริยางคศิลป์ จะอยู่ใกล้ ๆ กับทางเข้าออกของประตู 1 ค่ะ ร้านเปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 โดยร้านต้องการเป็นร้านอาหารที่ไม่ได้ขายเพียงอาหารอย่างเดียว หากแต่มีวัตถุประสงค์เพื่อขายรสนิยมเพื่อให้นักเรียนนักศึกษาและบุคคลภายนอกได้มีโอกาสซึมซับคุณค่าบรรยากาศที่สามารถหาได้ในมหาวิทยาลัย (ศาลายา) ถือว่าเป็นร้านที่เปิดให้บริการอาหารและยังเป็นศูนย์รวมในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เป็นศูนย์รวมในการสร้างบรรยากาศเพื่อการเรียนรู้ เช่น เป็นเวทีเสวนา สถานที่ฝึกอบรม เป็นร้านอาหารที่ขายความรู้ ตลอดจนให้บริการทางวิชาการทั้งทางตรงและทางอ้อม เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนความรู้ แสดงผลงานของนักเรียนและนักศึกษา
สำหรับเรื่องของที่จอดรถนั้น เราจอดได้ฟรีที่ลานจอด 2 ค่ะ (ทำใหม่) เราจะไม่เห็นร้านนะคะ ต้องเดินเข้าไปค่อนข้างลึกพอสมควร แต่สมใจและประทับใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะทางเดินเข้าไปมีทั้งตึกเรียนคอนกรีตออกแบบทันสมัย ตึกไม้ รวมถึงการปลูกต้นไม้นานาพันธุ์ทุกทิศทางแบบ 360 องศาทีเดียว ยังมีสะพานไม้ทอดยาวจนให้เราเดินเล่นถ่ายรูปเพลินก่อนถึงร้านที่อยู่ด้านขวามือค่ะ
ที่ชอบที่สุดก็จะเป็นทางเดินไม้ซึ่งมีด้านซ้ายมือของเราเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่สำหรับบำบัดน้ำค่ะ ร่มรื่นจริง ๆ ใครอยากให้อาหารปลาก็ได้นะค่ะ มีตู้ซื้ออาหารปลาบริการด้วย ตรงนี้สำคัญค่ะ ตอนให้อาหารปลา อยู่ ๆ ก็มีตัวเงินตัวทองโผล่ไปโผล่มา ว่ายมาใกล้แล้วค่ะ อาการเหมือนอยากกินด้วย อย่าตกใจนะคะ มันคงแค่อยากกินด้วยเท่านั้นเองค่ะ
พอมาถึงที่ร้านจะสังเกตง่าย ๆ ว่าเป็นตัวอาคารด้านล่างจะเป็นกระจกใส ด้านบนเป็นเพดานไม้สูง มีต้นไม้ล้อมรอบ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ภาคเหนือทีเดียว ดูโล่ง โปร่งสบายตา ที่นั่งด้านในเป็นห้องแอร์ หรือจะนั่งชิวชิว สบาย ๆ กันด้านนอกหรือด้านข้างจะเก๋ไก๋ดีค่ะ ทุกทิศทางเรามองไปทางไหนก็เห็นแต่ต้นไม้ร่มรื่นจริง ๆ ขอบอก ถือว่าไม่ผิดหวังที่เลือกที่นี่ค่ะ
ถึงเวลาเรื่องอาหารแล้วค่ะ เราเลือกนั่งริมกระจก มีแสงแดดส่องมาอ่อน ๆ สบายตาดี ถ่ายรูปอาหารก็ออกมาสวยด้วยค่ะ เมนูที่เลือกกันไว้ก็มี ผัดแห้งไส้อั่ว, ส้มตำยอดมะพร้าวกุ้ง, เห็ดหอมสดอบซีอิ๊ว, กุ้งทอดซอสครีมวาซาบิ, บักกุ๊ดเต๋สไตล์สิงคโปร์ และซี่โครงหมูอบหมั่นโถว สำหรับเครื่องดื่มนั้น เราดูเมนูแล้วน่าสั่งไปหมด งั้นเอา ซัมเมอร์โมอิโต้, ซีบูซเตอร์, เบต้าบูซเตอร์ และคิวแบนฮาวาน่า ต่อด้วยของหวาน อย่างเช่น มะยม (พริกเกลือ), ฝรั่ง (คลุกบ๊วย) และแครมบรูเล่ค่ะ
ผัดแห้งไส้อั่ว แปลกดีค่ะ หน้าตาหน้าทานมาก มากับเส้นสปาเกตตีดำ
ผสมผสานปรุงรสชาติเข้ากันดีกับไส้อั่วหั่นชิ้นไม่หนาเกินไป ทานคู่กับพริกแห้งยิ่งอร่อยค่ะ
ส้มตำยอดมะพร้าวกุ้ง ได้ครบรสชาติ เปรี้ยว หวาน มัน เผ็ดน้อย และเค็ม มะพร้าวหั่นซอยเป็นชิ้นเล็ก ๆ กรอบมากค่ะ
มีทั้งกุ้งแห้งตัวใหญ่ กุ้งสด ถั่ว และผักสดอื่น ๆ อย่างเช่น ถั่วฝักยาว ผสมกับน้ำยำของส้มตำ ครบรสชาติดีค่ะ
เห็ดหอมสดอบซีอิ๊ว ดูแห้ง ๆ แบบนี้ พอกัดเข้าไป ไม่ธรรมดานะค่ะ
ให้ทั้งความนุ่ม ชุ่ม และฉ่ำ ๆ จากซีอิ๊วที่อยู่ข้างในค่ะ เขามีน้ำจิ้มซีอิ๊วกับพริกให้ต่างหากด้วยนะคะ
กุ้งทอดซอสครีมวาซาบิ จัดวางใส่ถ้วยเล็ก ๆ เพื่อให้หยิบทานง่าย ครบรสชาติในคำเดียวค่ะ
กุ้งตัวใหญ่จัง รสชาติจะออกเปรี้ยวนิด ๆ หวานหน่อย ๆ จากซอสวาซาบิ
บักกุ๊ดเต๋สไตล์สิงคโปร์ ดูเรียบง่าย หน้าตาน่าทานดีค่ะ ซดร้อน ๆ คล่องคอดี
เขาตุ๋นกระดูกหมูมาค่อนข้างนุ่ม ไม่เหนียวเลยค่ะ ยังใส่เห็ดหอมและเห็ดเข็มทองเข้ามาด้วย ได้ความอร่อยและสุขภาพที่ดีค่ะ
ซี่โครงหมูอบหมั่นโถว ขอบอกว่าเมนูนี้ต้องสั่งค่ะ หมั่นโถวเขาทำมาดีมาก ๆ นุ่มด้านบน กรอบด้านล่าง กัดเข้าไปแล้วอร่อยมากค่ะ ให้ความนุ่มและความมัน ดีจริง ๆ ค่ะ
ทานคู่กับซี่โครงหมูที่นุ่มมากปรุงมากับซอสที่ให้ทั้งความหอมและความหวานนิด ๆ ยิ่งเพิ่มความอร่อยมาก ๆ ค่ะ
ซัมเมอร์โมอิโต้ มีทั้งสัปปะรด มะม่วง มิ้นต์ และพริกไทย
ซีบูซเตอร์ มีมะนาว เสาวรส สับปะรด และราสเบอร์รี่
เบต้าบูซเตอร์ มีส้ม แครอท และมะเขือเทศ
คิวแบนฮาวาน่า มีวานิลลา มิ้นต์ และน้ำมะนาว รสจี๊ดจ๊าดดีค่ะ
ฝรั่ง (คลุกบ๊วย) เป็นไอศกรีมนะคะ โรยด้วยพริกเกลือ ให้รสชาติเหมือนทานผลไม้จริง ๆ ค่ะ
มะยม (พริกเกลือ) รสชาติกำลังดี ฟินสุด ๆ ไปเลยค่ะ
แครมบรูเล่ค่ะ ของหวานที่รู้จักกันดี สไตล์ฝรั่งเศส ทานกับวิปปิ้งครีมนุ่ม ๆ พร้อมไอศกรีมวานิลา
แถมให้ส้มโอมาด้วย รสชาติเปรี้ยวนิด ๆ เย็น ๆ ชื่นใจดีค่ะ
พอพวกเราทานเสร็จ ก็เดินกลับอีกทางซึ่งเป็นด้านหลังของร้าน
เดินตรงขึ้นหน้าไปในทิศทางเดียวกับที่เรามา แต่เป็นสวน ปลูกแต่ไม้ป่า อยู่ด้านใน
มีสนามหญ้ากว้างอยู่ตรงกลาง มองแล้วร่มรื่นสะอาดสบายตาเป็นอย่างยิ่งค่ะ ถือว่าเดินย่อยและเพลินตาได้เป็นอย่างดี
เราสัญญาว่าจะกลับมาอีกถ้ามีโอกาสดี ๆ นะคะ ผึ้งชวนเพื่อน ๆ ลองไปชิมและเที่ยวชมสถานที่กันก็ดีนะคะ ไม่ไกลเลยจากกรุงเทพฯ ค่ะ
น้ำมันพืชตราผึ้ง ปลอดไขมันทรานส์
“ผึ้ง” กรอบอร่อยได้คุณค่า แบรนด์ของคนรุ่นใหม่
Cooking By Bee