ชวนชิมริมน้ำ ร้านเด็ด ตลาดวังหลัง

วันนี้เราจะพาทุกท่านไปเที่ยววังหลังกัน…

ในวัยเด็ก ๆ เราก็คงจะมีโมเมนต์เดินเที่ยวสนุกสนานในวันเสาร์-อาทิตย์ แต่จะเป็นไปไม่ได้เลยที่เด็กเมืองกรุงจะไม่รู้จัก “วังหลัง” ตลาดที่ท่าน้ำแถวศิริราช

ใครที่จะมาวังหลังอาจจะปวดหัวกับการหาที่จอดเล็กน้อย แต่เราก็มีคำแนะนำว่าให้มาทางเรือ คือจะได้ขึ้นท่าวังหลังเลย หรือใครที่ขับรถส่วนตัวมาก็สามารถมาจอดได้ที่วัดระฆังโฆสิตาราม อันนี้จะใกล้หน่อย สามารถเดินเข้ามาตลาดวังหลังได้ หรือจอดในที่จอดรถของตึกอานันทสวัสดิการ 1 (อันนี้จะจอดได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมงนะคะ) ซึ่งที่นี่อาจจะเดินไกลเล็กน้อย ก็สามารถโบกตุ๊ก ๆ ไปลงแถวตลาดวังหลังได้ค่ะ

ผึ้งมาจากทางวัดระฆัง ก็แวะไปไหว้พระทำบุญ เสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตสักหน่อย

เสร็จแล้วก็เดินลัดเลาะเข้าตรอกออกซอยต่าง ๆ ได้เห็นวิถีชีวิตพ่อค้าแม่ค้าขายสินค้ามากมาย โดยเฉพาะของกิน ผึ้งเริ่มจากของกินเล่นเบา ๆ “ไข่นกกระทามันม่วง”  “เอแคลร์”  “ขนมเปียกปูนใบเตย”

“ไข่นกกระทามันม่วง”  มีทั้งแบบสีม่วงและสีเหลืองทอง ให้ทานตอนร้อน ๆ ทอดใหม่ ๆ นะคะ จะกรอบอร่อยมาก ๆ

“เอแคลร์” วังหลัง ใครที่มาก็ต้องซื้อเลยนะคะ ไส้ครีมหวานอร่อย แต่ไม่ได้หวานโดดมากเกินไป และ “ขนมเปียกปูนใบเตย” ขนมไทยโบราณ หอมใบเตย รสชาติกะทิเข้มข้นหวานมัน อร่อย แถมราคาก็ดีต่อใจมาก ๆ

เดินไปเรื่อย ๆ ก็จะผ่านแหล่งของกินมากมาย ของคาว ของหวาน ของกินเล่นมีหมด เช่น ขนมจีนคุณแม่ พาย ชีสเค้ก เกี๊ยวทอด ข้าวขาหมู แหนมเนืองหนองคาย ผักโขมอบชีส มาการอง ข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น ทับทิมกรอบ ซูชิวังหลัง ทาโกะยากิวังหลัง ขนมไทย ผลไม้สด ผลไม้เชื่อม ข้าวเหนียวหมูปิ้ง กุยช่าย (แบบไดเอท) และน้ำพริกไตปลา แม้แต่พวงมาลัยก็ยังมีนะคะ

แม้ย่านวังหลังจะเป็นตลาดยอดนิยม มีผู้คนพลุกพล่านทุกวัน แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว วังหลังคือชื่อเรียกพระราชวังที่ประทับของ “กรมพระราชวังบวรสถานพิมุข หรือกรมพระราชวังหลัง” ซึ่งตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานพิมุขนี้ ถือเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญในด้านการปกครองเป็นอันดับที่ 3 รองลงมาจาก พระมหากษัตริย์หรือวังหลวง และกรมพระราชวังบวรสถานมงคล หรือวังหน้า อันเป็นองค์รัชทายาท ตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานพิมุขนี้ พระมหากษตริย์มักโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูงที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัยรองลงมาจากองค์รัชทายาท แต่ต่อมาสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการประกาศยกเลิกตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคล และโปรดให้มีตำแหน่ง “สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร” ซึ่งเป็นตำแหน่งที่จะทรงเป็นรัชทายาทสืบราชสันตติวงศ์สืบไป ต่อมาพื้นที่บริเวณนี้ก็ได้มีการสร้างและขยายโรงพยาบาลศิริราชขึ้น และบริเวณวังหลังก็ได้กลายมาเป็นตลาดสด ที่มีทั้งอาหาร ของคาว ของหวาน มากมาย แล้วจึงค่อย ๆ เริ่มมีการขายเสื้อผ้ามากขึ้น จนมาถึงปัจจุบันค่ะ (ข้อมูลจาก bangkokpath)

เดินกันมาสักพัก เจอร้านน่ากินก็มากมาย แต่ผึ้งก็ขอมากินร้านนี้ก่อนเลย “ร้านชวนอร่อย วังหลัง” ซึ่งเป็นร้านอาหารที่อยู่คู่ย่านศิริราช-วังหลังมายาวนาน ประมาณ 40 ปี ร้านตกแต่งแบบ โปร่ง ๆ สบาย ๆ อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงใกล้ ๆ โป๊ะเรือด่วน

นั่งริมน้ำจะเห็นวิวสวย ๆ ของวัดอรุณอยู่เป็นฉากหลังด้วยนะคะ อาหารรสชาติอร่อย หน้าตาอาหารน่ารับประทาน แถมราคาก็เป็นมิตรสุด ๆ เมนูก็มีให้เลือกหลากหลายตามแนวที่เราชอบ ที่ร้านนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงเมนู คิดสูตรใหม่มาเรื่อย ๆ เรียกได้ว่าอยู่มานานแต่มีการพัฒนาเมนูใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย แล้วใครล่ะจะไม่อยากมาลองชิม

ผึ้งก็ขอลองสั่งเมนูเด็ด ๆ มากิน  เริ่มต้นด้วยเมนู “กีวีมะม่วงพาหมูเที่ยว” “กุ้งกรอบซอสมะขาม” “ยำปูนิ่ม” “ส้มตำปลาสลิด” “ราดหน้าหมูกระทะร้อน” และ “เส้นหมี่กรอบไข่ระเบิด” แต่ละชื่อก็เด็ดโดนใจจริง ๆ

“กีวีมะม่วงพาหมูเที่ยว”
เป็นเมนูแนะนำของร้านนี้เลยทีเดียว ชื่ออาจจะฟังดูน่ารักตะมุตะมิ  แต่รสชาติกลับเข้มข้นอร่อยมาก ๆ เสิร์ฟมาเป็นหมูทอดข้าวเม่า กรอบนอกนุ่มใน มีผักมาเป็นเครื่องเคียง เราสามารถกินแบบนำหมูทอดข้าวเม่าห่อด้วยผัก แล้วเลือกจิ้มกับซอสสูตรเด็ด 2 รสชาติ คือ ซอสกีวีก็จะได้รสชาติเผ็ดร้อนแบบไทย ๆ ผสานกับกลิ่นและรสเปรี้ยวของกีวี ส่วนอีกอันจะเป็นซอสมะม่วง ก็จะได้รสชาติหวาน ๆ จากมะม่วง อร่อยลงตัวมาก ๆ ค่ะ

“กุ้งกรอบซอสมะขาม”
กุ้งกรอบไซส์พิเศษที่ทอดมาได้แบบกรอบมาก ๆ ที่เด็ดสะระตี่สุด ๆ คือน้ำซอสมะขามที่ราดมา รสชาติเปรี้ยวอร่อยกำลังดี
กุ้งนี้กรอบชนิดที่ว่าสามารถรับประทานทั้งตัวเลยก็ได้ ไม่ต้องมานั่งแกะเปลือกเลยจ้า แถมยังมีผักเป็นเครื่องเคียงให้อีก ยิ่งทานคู่กับข้าวสวยก็รับประกันความฟิน ขึ้นสวรรค์ไปเลย

“ยำปูนิ่ม”
อาหารไทยรสเด็ด ที่นำเอาปูนิ่มไปชุบแป้งมาทอดจนสุกเหลืองกรอบ เสิร์ฟพร้อมกับน้ำยำที่มีถั่วลิสง และมะม่วงสับใส่มาด้วย รสชาติเปรี้ยว ๆ เผ็ดน้อย ๆ อร่อยกำลังดี

“ส้มตำปลาสลิด”
ส้มตำธรรมดาหลบไป มากิน “ส้มตำปลาสลิด” กันดีกว่า รสชาติแบบตำไทยแต่เข้มข้นใช้ได้ เพิ่มความอร่อยด้วยพระเอกอย่าง ‘ปลาสลิด’ ที่ทอดมาได้กรอบม๊ากมาก เป็นการกินส้มตำแบบใหม่ที่อร่อยดีค่ะ

“ราดหน้าหมูกระทะร้อน”
หน้าตาอาจดูแปลก ๆ ไปหน่อย เพราะคล้าย ๆ ว่าจะเป็นแป้งกรอบรองรับราดหน้าหมูที่ราดมาแบบสวยงาม  แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานยังไง เจ้าแป้งกรอบนี้ก็ยังกร๊อบกรอบจริง ๆ เขาทอดมาได้ดีมาก ๆ  เป็นเมนูแนะนำอีกเมนูของทางร้านเลยค่ะ ใครได้ลอง อาจต้องขอต่อจานสอง เพราะอร่อยจัด

“เส้นหมี่กรอบราดหน้าไข่ระเบิด”
คล้ายจะเป็นราดหน้าหมูสับ เสิร์ฟพร้อมไข่ดาว (ไข่แดงมาแบบยางมะตูม) และหมี่กรอบ ซึ่งแน่นอนว่าเขาทอดเส้นหมี่กรอบได้กรอบมาก ๆ รสชาติของจานนี้จะมีความเข้มข้นและมีรสชาติเผ็ดหน่อย ๆ เป็นรสชาติที่กลมกล่อมกับส่วนผสมที่ลงตัว

“เส้นหมี่กรอบราดหน้าไข่ระเบิด”
คล้ายจะเป็นราดหน้าหมูสับ เสิร์ฟพร้อมไข่ดาว (ไข่แดงมาแบบยางมะตูม) และหมี่กรอบ ซึ่งแน่นอนว่าเขาทอดเส้นหมี่กรอบได้กรอบมาก ๆ  รสชาติของจานนี้จะมีความเข้มข้นและมีรสชาติเผ็ดหน่อย ๆ เป็นรสชาติที่กลมกล่อมกับส่วนผสมที่ลงตัว

“อัญชันมะนาว”
ตบท้ายด้วยเครื่องดื่มดับร้อนสุดคลาสสิค “น้ำอัญชันมะนาว” นอกจากจะดื่มแล้วได้ความสดชื่น รสชาติเปรี้ยวหวานอร่อยแล้ว ก็ยังได้ประโยชน์จากดอกอัญชันอีกด้วยนะคะ

พออิ่มหน่ำสำราญก็นั่งพักท้องมองดูวิวแม่น้ำเจ้าพระยาสักพัก ก็ถึงเวลาเดินทางทัวร์ช้อป ทัวร์ชิมต่อ

ในปัจจุบัน นอกจากตลาดวังหลังจะมีของกินขายมากมายแล้ว ก็กลายมาเป็นแหล่งช้อปปิ้งแฟชั่น มีทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า อย่างเสื้อผ้าวินเทจ  กระเป๋า รองเท้ามือสองที่เป็นที่นิยมของวัยรุ่น เนื่องด้วยพื้นที่บริเวณรอบ ๆ นี้ มีทั้งมหาวิทยาลัยและโรงเรียนอยู่หลายแห่ง ทำให้ในทุก ๆ วัน ตลาดวังหลัง จะมีความคึกคักเสมอ ๆ

และพอเราเดินลัดเลาะเข้ามาตามทางแล้ว ก็จะพบกับผู้คนมากมายที่เดินไปตามทางในตลาดวังหลังอย่างเนืองแน่น

ด้วยความที่ในสมัยก่อนพื้นที่บริเวณวังหลังนั้นก็เคยเป็นตลาดมาก่อน จึงทำให้ภายในตลาด มีร้านอาหารและร้านขนมต่าง ๆ อยู่หลายร้าน ซึ่งแต่ละร้านก็มีหลากหลายสไตล์แตกต่างกัน สามารถแวะนั่งพักทานอาหาร ขนม จิบเครื่องดื่มชมบรรยากาศผู้คนสัญจรไปมาได้ตามร้านที่ชอบ

ผึ้งเลยขอมาแวะต่อที่ร้าน Fit Flavor Healthy Everyday แค่ชื่อก็รู้เลยว่าเฮลธ์ตี้สุด ๆ ใครเป็นสายนี้ก็ห้ามพลาด ร้านตกแต่งโทนสีสว่าง บรรยากาศสบาย ๆ  เป็นคาเฟ่เล็ก ๆ นั่งดื่มชา กาแฟได้ แต่ทุกเมนูทุกเครื่องดื่ม ล้วนทำมาเพื่อคนรักสุขภาพสุด ๆ ทางร้านเลือกหญ้าหวาน (Stevia) แทนน้ำตาล เพราะจะไม่เพิ่มแคลอรี่ให้กับร่างกาย แล้วยังหวานแบบธรรมชาติ ห่างไกลสารฟอกสี หรือไขมันไม่ดีอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีเมนูของว่างแบบคลีน ๆ และขนมคลีนไว้ให้เราได้เลือกทานอีกด้วย  เดินทัวร์กันมานาน ผึ้งก็รู้สึกร้อนสุด ๆ จึงของสั่งเมนูเครื่องดื่มร้านนี้มาดับกระหายเพื่อสุขภาพกันค่ะ

เมนูแรก Chia Seed Pudding Matoom Tea Latte พุดดิ้งชามะตูมเมล็ดเจีย สุดยอดอาหาร ทานง่ายอิ่มอร่อย และมีคุณประโยชน์แฝงอยู่เต็ม ๆ 

ต่อมาด้วยเมนู “Peachy Passion” ลูกพีชและสับปะรดปั่น มีท็อปปิ้งเป็น homemade passion fruit jelly เคี้ยวกรุบ ๆ อร่อยดี เป็นเมนูที่ให้รสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อมกำลังดี ไม่เปรี้ยวจัดไม่หวานจัดเกินไป และได้สุขภาพดีตามแบบ fit flavor จริง ๆ

นั่งพักกันจนเย็นกายเย็นใจแล้วก็เดินช้อปต่อ ผึ้งก็ไปเจอกับร้านขายสมุนไพร ขัดตัว พอกหน้าพอกผิวพรรณ ซึ่งเรื่องของความสวยความงามก็เป็นสิ่งที่หนุ่ม ๆ สาว ๆ สนใจกันอยู่แล้ว แต่ในสมัยนี้เราคงจะไม่ค่อยได้เห็นผลิตภัณฑ์ความสวยความงามที่มาจากธรรมชาติกันเท่าไหร่นัก เชื่อไหมว่าเราสามารถใช้สมุนไพรไทยต่าง ๆ นี่แหละ (เช่น ขมิ้น มะขาม ไพล) มาทำเป็นที่ขัดตัว พอกหน้า ให้ผิวพรรณสวยอย่างเป็นธรรมชาติได้ ซึ่งสมุนไพรเหล่านี้คนในสมัยก่อนก็ใช้กันมานาน หนุ่มสาวสมัยนี้คงไม่ค่อยคุ้นกัน ผึ้งก็ของลองตัวหน้าใส ที่เขาว่ามีสมุนไพรไทยตั้ง 18 ชนิดเชียว ได้ผลอย่างไรเดี๋ยวผึ้งจะมาบอกนะคะ

และแล้วก็ถึงเวลาหมดสนุกแล้วสิ ใครที่มาตลาดวังหลัง แน่นอนว่าต้องได้หอบหิ้วของติดไม้ติดมือกลับบ้านไปหลายอย่างแน่ ๆ เพราะตลาดแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของกิน เสื้อผ้า ของใช้ ของมือสอง แม้กระทั่งของเล่น ก็มีให้ซื้อกัน มาที่เดียวครบจบจริง ๆ เรียกได้ว่าใครที่เป็นตัวแม่ช้อปปิ้งคงต้องผ่านสมรภูมิตลาดวังหลังมาแล้วกันทุกคน 

“วังหลัง” ที่ไม่ต้องรอให้เป็นวันหลัง ไปวันนี้กันเลยนะคะ

กรอบอร่อยได้คุณค่า “ผึ้ง” แบรนด์ของคนรุ่นใหม่ 

Cooking by Bee