ข้ามประตูสูมิติความสวยงาม ณ วิหารพระมงคลบพิตร และวัดแม่นางปลื้ม
“อยุธยา” เมืองเก่าแก่ของมนต์เสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์ไทย ใครๆ ก็รู้ น้อยคนนักที่จะไม่เคยมาเยือนและสัมผัสกับองค์ความรู้แห่งศิลปะและวัฒนธรรมไทยด้วยคุณค่าที่อยู่คู่กับไทยมาอย่างยาวนาน อยุธยาเป็นจังหวัดที่มีวัดมากมายกว่า 834 แห่ง (ข้อมูลจากสำนักงานพระพุทธศาสนา) ซึ่งเป็นวัดที่นิยมและวัดลับที่ผู้คนไม่ค่อยจะเข้าถึงกันมากนัก อย่างไรก็ตามผู้คนมากมายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมักนิยมและชื่นชมแหล่งประวัติศาสตร์ไทยของอยุธยาแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยใดๆ ก็ตาม
“วิหารพระมงคลบพิตร” และ “วัดแม่นางปลื้ม” เป็นวัดที่น่าสนใจและมีเรื่องเล่าขานไปต่างกัน ขอกล่าวถึง “วิหารพระมงคลบพิตร” ก่อนอื่นใด วัดนี้ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ของ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ใช้เส้นทางเดียวกับทางไปคุ้มขุนแผน โดยวิหารพระมงคลบพิตรจะอยู่ถัดไป ซึ่งวิหารพระมงคลบพิตร นั้นจะเป็น พระพุทธรูปบุสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย มีขนาดหน้าตักกว้าง 9.55 เมตร และสูง 12.45 เมตร สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ในรัชสมัยของสมเด็จพระไชยราชา และถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่องค์หนึ่งในประเทศไทยเลยทีเดียว ถือได้ว่าเป็นวัดสวย อีกแห่งของอยุธยา ที่แม้ว่าจะไม่ได้เรียกว่าวัด แต่ก็สวยงดงามอย่างมาก มีทั้งความเก่าแก่ และความสำคัญอย่างมากในอดีต
เดิมแล้วพระมงคลบพิตรตั้งอยู่ที่วัดซีเซียง แต่ว่าย้ายมาไว้ที่บริเวณวิหารนี้ในสมัยพระเจ้าปราสาททอง ตอนแรกก็เป็นเพียงแค่มณฑปครอบไว้ เวลาต่อมาในสมัยพระเจ้าเสือ ยอดของมณฑปโดนอัสนีบาต ไฟไหม้มณฑปหักลงมาต้องพระเศียรหัก พระเจ้าเสือจึงให้แปลงมณฑปเป็นวิหารโดยยังคงส่วนยอดของมณฑปไว้และซ่อมเศียรพระใหม่ และหลังจากช่วงเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ตัววิหารและพระพุทธรูปถูกไฟไหม้ชำรุดทรุดโทรม จนได้มาบูรณะปฏิสังขรณ์ใหม่ในรัฐบาลสมัยสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม จนมาเป็นวิหารอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน (https://th.wikipedia.org/wiki)
พื้นที่ส่วนด้านข้างของวิหาร (ด้านซ้ายมือถ้าหันหน้าเข้าวิหาร) เป็นพื้นที่ OTOP ของ ชาวอยุธยามาหลายปีแล้ว มีทั้งของกินคาว หวาน ผลไม้ดอง เครื่องจักรสาน เป็นต้น มากี่ครั้งก็ต้องพากันเดินช้อปกันอย่างเพลิดเพลิน ไม่ว่าจะเป็นโรตีสายไหม (ของหวานยอดนิยมของชาวอยุธยา) กล้วยทอดเผือกทอด มะขามหวาน มะเขือราชินีอบ กล้วยอบ พุทธาแช่อิ่ม ข้าวเกรียบ กาละแมกะทิสด ขนมสาลี่ เป็นต้น เรียกได้ว่า “เดินไป กินไป ใช่เลย”
มาต่อกันที่ “วัดแม่นางปลื้ม” ซึ่งเป็นวัดโบราณ ตั้งอยู่ตำบลคลองสระบัว อำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถือว่าเราได้ข้ามประตูไปสู่ความสวยงามในอดีตที่มีเรื่องราวให้เราเรียนรู้กันเลยทีเดียว “วัดแม่นางปลื้ม” มีประวัติเล่ามาว่า แม่ปลื้มเป็นชาวบ้านอยู่ริมน้ำชานพระนครคนเดียว ไม่มีลูกหลาน วันหนึ่งสมเด็จพระนเรศวรทรงพายเรือมาแต่พระองค์เดียว ท่ามกลางสายฝนเมื่อเสด็จมาถึงทอดพระเนตรเห็นกระท่อมยังมีแสงตะเกียงอยู่ เวลานั้นค่ำอยู่ สมเด็จพระนเรศวรทรงแวะขึ้นมาในกระท่อม แม่นางปลื้ม เห็นชายฉกรรจ์เสื้อผ้าเปียกขึ้นมา จึงได้กล่าวเชื้อเชิญด้วยความมีน้ำใจ แต่พระองค์ท่านทรงเสียงดังตามบุคลิกของนักรบชายชาตรี แม่ปลื้มได้กล่าวเตือนว่า ลูกเอ๋ย เจ้าอย่าเสียงดังนักเลย เวลานี้ค่ำมากแล้วเดี๋ยวพระเจ้าแผ่นดินท่านทรงได้ยินจะโกรธเอา พระองค์กลับตรัสด้วยเสียงอันดังขึ้นอีกว่า ข้าอยากดื่มน้ำจันทน์ ข้าเปียกข้าหนาว อยากได้น้ำจันทน์ให้ร่างกายอบอุ่น
เมื่อแม่ปลื้มได้ยินก็ตกใจขึ้นมาอีกเพราะว่าวันนี้เป็นวันพระ แม่ปลื้มได้กล่าวว่าถ้าจะดื่มจริงๆ เจ้าต้องสัญญาว่าจะไม่ให้เรื่องแพร่หลายเดี๋ยวพระเจ้าแผ่นดินรู้ จะอันตราย พระนเรศวรรับปากแม่ปลื้มจึงหยิบน้ำจันทน์ให้ดื่ม สมเด็จพระนเรศวรได้ประทับค้างคืนที่บ้านของแม่ปลื้มจนเช้าและได้เสด็จกลับวัง ต่อมาได้จัดขบวนมารับแม่ปลื้มไปเลี้ยงในวัง ด้วยความที่แม่ปลื้มเป็นคนมีเมตตา จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ หลังจากแม่ปลื้มเสียชีวิต สมเด็จพระนเรศวรทรงจัดงานศพให้อย่างสมเกียรติ แล้วสมเด็จพระนเรศวรจึงสร้างวัดให้แม่ปลื้ม นามว่า “วัดแม่นางปลื้ม” พระประทานของที่นี่ คือ หลวงพ่อขาว ซึ่งมีลักษณะงดงามมาก (https://ww2.ayutthaya.go.th/travel/detail/47)
วัดแม่นางปลื้มนั้นถือเป็นวัดที่ความร่มรื่นสวยงามแต่ไม่ค่อยจะมีผู้คนรู้จักมากนัก เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรมาเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมแบบโบราณเป็นอย่างมาก ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดก็คือซุ้มประตูวัดซึ่งเป็นซุ้มประตูศิลปะอยุธยาแบบโบราณ เมื่อได้เดินลอดผ่านซุ้มประตูนี้แล้วจะเหมือนกับได้เดินข้ามประตูมิติเลยทีเดียว ภายในวัดยังมีสถาปัตยกรรมทางพระพุทธศาสนาอีกมากมาย ใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวอยุธยาอย่าลืมแวะไปชมกัน
ภาพแห่งประวัติศาสตร์ ณ สถานที่ทั้งสองแห่งนี้ ได้สะท้อนถึงคุณค่าของอดีตที่เติบโตมาคู่กับผู้คนในแต่ละรุ่นและสมัยอย่างน่าชื่นชม ถามว่าเหนื่อยไหม ไม่แน่นอน แต่คงหิวกันแล้ว ขากลับขอแวะกันที่ “ตลาดกลางเพื่อการเกษตรกร” กันสักหน่อย ที่นั้นก็รู้จักกันดีในเรื่องของแหล่งอาหารทะเล ซีฟู้ดสดๆ จะแวะกินก่อนกลับบ้าน ก็ไม่มีใครว่านะ ตลาดกลางเพื่อการเกษตรกรเป็นตลาดที่จำหน่ายกุ้งจากฟาร์มของเกษตรกรของแท้
แวะกินกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ๆ สดๆ ราคาไม่แพง มีหลายขนาด หลายราคา จะขายเป็นกิโล มีหลายราคาให้เลือก อยู่บนถนนสายเอเซียขาเข้า ถ้ามาจากบางปะอินไปบางปะหันเลยโลตัสอยุธยา ไปจะอยู่ขวามือพอมองเห็นตลาดแล้วค่อย u-turn มีหลายร้าน รสชาติ สำหรับกุ้งเผาใกล้ๆกัน มีอาหารพวกปลาเผา ห่อหมกด้วย ร้านที่คนนิยมกินกันก็ กุ้งเพื่อนแพรว ร้านแพกรุงเก่า หรือร้านกุ้งเจ้าพระยา ที่นี่ยังเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองของอยุธยาแทบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นมีดอรัญญิกแท้จากอำเภอพระนครหลวง ปลาร้า ปลาแห้ง และผลไม้กวนหลากหลายชนิด ให้คุณได้แวะอุดหนุนเป็นของฝากอย่างเพลิดเพลิน
“น้ำมันปาล์มตราผึ้ง” โดยกลุ่มปาล์มธรรมชาติ ขอร่วมส่งเสริมเพื่อสืบสานคุณค่าแห่งวัฒนธรรมและวิถีชีวิต “กินดี อยู่ดี สุขภาพดี” รวมไปถึงการส่งเสริมและสนับสนุนการลดภาวะโลกร้อน เพื่อโลกที่น่าอยู่ของสังคมไทย