“ท่าช้าง ท่ามหาราช และอุโมงค์ลอดถนนหน้าพระลาน”ย่านกินเที่ยวตามรอยประวัติศาสตร์ไทย
ย่านท่าช้างและท่ามหาราช ถือว่าหนึ่งในพื้นที่ยุทธศาสตร์ตามแผนฟื้นฟูเมืองกรุงเทพฯ 250 ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของไทย เรียกได้ว่าเป็นย่านแห่งการต้อนรับผู้คนและแขกบ้านแขกเมืองอย่างไม่มีวันหยุด
ถ้าย้อนกลับไปในอดีต เรารู้กันดีว่าย่านแถวนี้เป็นที่ตั้งของ “หัวแหวนของกรุงรัตนโกสินทร์” คือรอยต่อเชื่อมสำคัญของเมืองหลวง 2 ยุคสมัย จากกรุงธนฯ สู่กรุงเทพฯ ที่ส่งเรื่องราวและกลิ่นอายของไทยได้อย่างไม่รู้เลือน ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอาราม (วัดพระแก้ว) ที่ตั้งอยู่ในย่านนี้ด้วย รวมไปถึงตลาดท่าน้ำที่เชื่อมต่อไปยังฝั่งธนบุรี เรื่องราวในแต่ละยุคสมัยแม้ว่าจะจบสิ้นลง แต่ความทรงจำยังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้
กาลเวลาผ่าน เรื่องราวและวิถีของคนย่อมแปรเปลี่ยนไปตามพฤติกรรมและ การใช้ชีวิตที่ต้องปรับให้เข้ากับสิ่งใหม่ ๆ ในยุคปัจจุบัน แต่เอกลักษณ์และเสน่ห์ของย่านนี้ยังทิ้งกลิ่นอายของความเป็นไทยได้ดีเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการค้าขาย การท่องเที่ยว การเดินทางที่ยังคงใช้เรือเป็นพาหนะข้ามฝั่ง รวมไปถึงร้านค้าต่างๆ ที่ต้องปรับตัวให้ทันสมัยและมีสีสันเพื่อดึงดูดความน่าสนใจ ดูเหมือนว่า “ความคิดสร้างสรรค์ – Creativity” ต้องมีไว้ (It is a must) จึงเห็นได้ว่ามีการออกแบบและตกแต่งสถานที่ ภาพเพ้นท์ฝาผนัง และยังรวมถึงจุดแลนด์มาร์คสวย ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่ยังคงอนุรักษ์และรักษาความเป็นเอกลักษณ์ไทยไว้อย่างเข้มแข็ง
ถ้าเอ่ยถึง “ท่าช้างและท่ามหาราช” นั้น เกร็ดความรู้ด้านประวัติศาสตร์ได้เขียนไว้ว่า
ท่าช้าง เป็นท่าเรือที่ตั้งอยู่สุดถนนหน้าพระลาน เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ใช้บริเวณประตูเมืองนำช้างซึ่งเลี้ยงไว้ในพระบรมหาราชวังลงอาบน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา จึงเรียกกันว่าท่าช้างวังหลวง ในปัจจุบันนิยมเรียกว่า “ท่าช้าง”
“ท่ามหาราช” ตั้งอยู่บนเกาะรัตนโกสินทร์ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้ ๆ กับท่าพระจันทร์ เป็นจุดศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร แผงเช่าพระตั้งเรียงรายอยู่ทั่วบริเวณ
ความเก่ายังคงอยู่และความใหม่ก็ถูกเนรมิตขึ้นมาเป็นการผสมผสานสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมในแต่ละยุค ในวันนี้เรารู้ว่ามีจุดเช็คอินใหม่เกิดขึ้นที่เรียกว่า “อุโมงค์หน้าพระลาน” ทางลอดสนามหลวง-วัดพระแก้ว-ศาลหลักเมือง จุดนี้น่าสนใจเป็นพิเศษและเป็นเรื่องที่กำลังพูดถึงกันมากมายทีเดียว จึงพลาดไม่ได้ที่ต้องมาเยี่ยมเยือน ที่นี่ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา โครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดถนนแห่งนี้ก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางสักการะขอพรพระแก้วมรกต และชมความงดงามของพระบรมมหาราชวัง
อุโมงค์ทางเดินลอดจุดตัดถนนหน้าพระธาตุกับถนนหน้าพระลาน มีระยะทาง 96 เมตร ความลึก 6.6 เมตร มีโถงพักคอย รวมถึงห้องน้ำชายและห้องน้ำหญิง
อุโมงค์ทางเดินลอดถนนมหาราช มีระยะทาง 90 เมตร ความลึก 4.7 เมตร มีโถงทางเดิน ห้องน้ำชายและห้องน้ำหญิง
และสำหรับอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลานอยู่บริเวณเดียวกับสนามหลวง ฝั่งเดียวกับประตูมณีนพรัตน์ พระบรมมหาราชวัง โดยมีประตูทางออกในรูปแบบบันไดเลื่อน 4 จุด ประกอบด้วยทางออกที่ 1 : สนามหลวงและท่าพระจันทร์ ทางออกที่ 2 : กรมศิลปากร ทางออกที่ 3 : ศาลหลักเมือง และทางออกที่ 4 : พระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
อุโมงค์แห่งนี้ถือว่าเป็นจุดเชื่อมของการเดินทางและการเรียนรู้แห่งใหม่ในย่านนี้ มีจุดที่น่าสนใจ เพราะมีโซนพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการก่อตั้งเมือง งานสถาปัตยกรรม รวมไปถึงร่องรอยกำแพงเมืองในอดีต
ประสบการณ์และเวลาที่ใช้ไปในวันนี้ ถือว่าครบรสชาติทั้งเดินทาง กิน และเที่ยว ความประทับใจและเรื่องราวของอดีตที่ผูกไว้กับปัจจุบันนั้น พร้อมรอทุกท่านอยู่ ณ ย่านนี้ สิ่งใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นคือโอกาสที่ดี การที่ได้มาเยือน ณ จุดนี้คือ การสะท้อนถึงเอกลักษณ์และการใช้ชีวิตของผู้คนตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และนี่คือ “การเดินทาง ท่องเที่ยว กิน อยู่” อย่างมีคุณค่า
“น้ำมันปาล์มตราผึ้ง” โดยกลุ่มปาล์มธรรมชาติ ขอร่วมส่งเสริมเพื่อสืบสานคุณค่าแห่งวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของการ “กินดี อยู่ดี สุขภาพดี” ของคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง