ร้านบ้านระเบียงน้ำ

บ้านระเบียงน้ำ บรรยากาศเกินร้อย ณ แม่น้ำเจ้าพระยา แล้วอย่าลืมแวะชมวัดแคนอก ถิ่นชาวมอญดั้งเดิม

หากเพื่อน ๆ กำลังมองหาร้านอาหารริมฝั่งแม่น้ำใกล้กรุงเทพฯ ลองแวะมาแถวนนทบุรีดูค่ะ ร้านอาหาร “บ้านระเบียงน้ำ” เป็นอีกร้านที่น่าสนใจ เพราะนอกจากร้านจะอยู่ในทำเลที่ตั้งริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ยังใกล้วัด และแหล่งชุมชนเก่า (ชาวมอญ) ที่ยังคงทิ้งเรื่องราวในอดีตแห่งมนต์ขลังและความมีเสน่ห์ของสถานที่มิเสื่อมคลาย

ใครที่ขับรถมาให้ตรงไปยังถนนนนทบุรี เข้าไปในซอยนนทบุรี 23 หน้าซอยคือทางเข้าวัดแคนอก ไปจอดรถที่วัดได้เลยค่ะ จะมีรถรับส่งของทางร้านมาบริการถึงที่เลย (น่ารักมากค่ะ)

มาแล้วคะ “รถรับส่ง VIP” จากทางร้าน เป็นรถมอเตอร์ไซด์ต่อพ่วงมีหลังคา บรรทุกคนได้ประมาณ 3 – 5 คน เส้นทางที่เข้าไปยังร้านจะผ่านชุมชนเล็ก ๆ ไม่นานนักก็ถึงร้านแล้ว

แต่ถ้าจะเดินไปก็ได้นะ ไม่ไกลเท่าไรนัก 5 นาทีก็ถึงแล้ว พอทีมเรามาถึงวัดแคนอก ซึ่งดูจากสถาปัตยกรรมของโบสถ์แห่งนี้น่าจะเป็นวัดชาวมอญ แต่เราขอไปแวะรีวิวเมนูที่ “บ้านระเบียงน้ำ” กันก่อน แล้วนัดแนะกันว่าจะมาเดินเที่ยวชมวัดแห่งนี้กันค่ะ

โอ้โห้ ร่มรื่นดีจัง ทางเข้าร้านเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ ทั้งเล็กและใหญ่ ยังมีมุมและที่นั่งให้ถ่ายรูปสวย ๆ กันได้อีก ทางร้านเขาปรับปรุงต่อเติมบ้านโบราณเก่าเป็นร้านอาหาร แต่ยังคงสะท้อนเอกลักษณ์แบบบ้านโบราณอยู่ สังเกตด้านหน้าติดแม่น้ำยังคงมีศาลาริมน้ำอยู่ ถ้าใครมีบ้านริมน้ำก็คงจะพากันมานั่งเล่นกันตรงศาลาริมน้ำนี่ละค่ะ

แน่นอนค่ะ เราจองที่นั่งริ่มน้ำ สามารถเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างชัดเจน เรียกได้ว่าสุดคุ้มกับการออกมาทานอาหารนอกบ้านด้วยวิวหลักล้านจริง ๆ

มาค่ะ ได้เวลาเลือกเมนูดัง ๆ ของที่นี่กันแล้ว ก็มี กุ้งแม่น้ำสะเดาน้ำปลาหวาน, แกงคั่วหมูตุ๋นใบมะดันอ่อน, ห่อหมกทะเล, หอยเชลล์ผัดพริกไทยดำ และสำหรับเมนูน้ำดื่ม ก็มี สับปะรดโหระพาปั่น, น้ำมะพร้าวอ่อน, มะนาวน้ำผึ้งสะระแหน่ และสตรอว์เบอร์รี่ขิง และยังตบท้ายด้วยมะม่วงน้ำปลาหวาน ที่เกือบทุกโต๊ะต้องสั่งกัน แค่ดูเมนูก็ฟินแล้วค่ะ เมนูที่นี่ส่วนใหญ่เน้นอาหารไทยโบราณและไทยประยุกต์

กุ้งแม่น้ำสะเดาน้ำปลาหวาน เมนูต้องสั่งเลยค่ะ กุ้งตัวใหญ่มาก ๆ ใครชอบกุ้งและหัวกุ้งที่มีมันเยิ้ม ๆ ทานกับข้าวร้อน ๆ ฟินมาก

และที่เด็ดกว่านั่นคือ สะเดาน้ำปลาหวาน นี่ล่ะ ใบอ่อน ๆ รสชาติออกขมนิด ๆ️ ทานคู่กับน้ำจิ้มที่ตัดกับความหวาน อร่อยจริง ๆ ทางร้านยังมีน้ำจิ้มซีฟู้ดมาให้ด้วย ใครชอบแบบไหน เลือกได้เลยค่ะ

แกงคั่วหมูตุ๋นใบมะดันอ่อน หอมจัง หอมเครื่องแกงที่ผสมผสานมากับกะทิสดและผักสมุนไพรต่าง ๆ ออกรสชาติเปรี้ยวนิด หวานหน่อย เผ็ดกำลังดีค่ะ

เนื้อหมูเขาตุ๋นมาอย่างเปื่อย นุ่มลิ้นมาก และที่สำคัญได้รสชาติเปรี้ยวนิด ๆ ของใบมะดันอย่างเป็นธรรมชาติ

ห่อหมกทะเล รสชาติเข้มข้นหอมเครื่องแกงแท้ ๆ อย่างดั้งเดิม ห่อมาด้วยใบตอง

ส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ โรยด้วยใบมะกรูดหั่นฝอย เนื้อสัตว์ทะเลให้ทั้งโปรตีน ไอโอดีน และแคลเซียมด้วยนะ

หอยเชลล์ผัดพริกไทยดำ เสิร์ฟและตกแต่งมาในถ้วยเล็ก ๆ อย่างสวยงาม ทานง่ายสะดวกดี

รสชาติเข้มข้น หอมพริกไทยดำ ทั้งพริกหยวกและเนื้อหอยเชลล์ ช่างกรอบ นุ่ม และหอมจัง

มะม่วงน้ำปลาหวาน มะม่วงหั่นมาอย่างสวยงาม กรอบและสด

ทานกับน้ำปลาหวานข้น ๆ ที่ใส่กุ้งแห้งมาเยอะมากทีเดียว แป๊บเดียวหมดจานค่ะ

สับปะรดโหระพาปั่น, น้ำมะพร้าวอ่อน, มะนาวน้ำผึ้งสะระแหน่ และสตรอว์เบอร์รี่ขิง ใครมาต้องสั่งค่ะ เพราะเขาเน้นน้ำปั่นสมุนไพรจริง ๆ รสชาติแต่ละแก้วให้ทั้งความหวานหอม อร่อย และมีประโยชน์ได้คุณค่าจากสมุนไพรไทย

อิ่มกันเป็นที่เรียบร้อย แต่เรายังมีอีกสถานที่ที่ต้องแวะชมกัน ณ “วัดแคนอก” คราวนี้เราขอเดินออกจากร้านไปยังวัดกันเลยดีกว่า อิ่มแล้วต้องเดินย่อยกันบ้าง แดดไม่ค่อยร้อน พอไหวกันอยู่นะ

มารู้จักวัดนี้กันสักหน่อยนะคะ “วัดแคนอก” สร้างในสมัย ร.3 ในปี พ.ศ. 2367 ปีแรกที่พระองค์เสด็จครองราชย์ พระยารามัญนำครอบครัวมอญ ประมาณ 3,000 คน มาพึ่งไทย พระองค์ให้คนมอญเหล่านั้นกระจายอยู่แถบวัดชนะสงคราม วัดลิงขบ ปากเกร็ด บางพูด บางตะไนย์ ซึ่งส่วนหนึ่งอยู่บริเวณแถบนี้จึงร่วมกันสร้างวัดขึ้น พระอุโบสถหลังเก่าหันหน้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยา หน้าบันเป็นไม้สลักลวดลายพฤกษาดอกโบตั๋น

ภายในกำแพงแก้วมีเจดีย์ทรงมอญ 2 องค์ หน้าพระอุโบสถมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่

พระประธานในโบสถ์เก่าเป็นของใหม่ ของเดิมพระประธานมีขนาดใหญ่ปางมารวิชัย มีเรื่องเล่าว่า พันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนานำคณะราษฎรมาอธิษฐานในโบสถ์เก่าแห่งนี้

ต่อมาวัดสร้างโบสถ์ใหม่ในปี พ.ศ. 2533 โดยหันหน้าออกถนน และได้อัญเชิญพระประธาน รวมถึงองค์พระพุทธรูปต่าง ๆ จากโบสถ์เก่ามาไว้โบสถ์ใหม่ สังเกตได้ว่าเสาหงษ์ของโบสถ์ใหม่นั้นเป็นสัญลักษณ์ของวัดมอญอย่างแท้จริง (ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://janesnote.wordpress.com/ เที่ยววัด ชมเวียง เยือนวัง)