ป่าคือแหล่งอาหาร
จากข้อมูลทั่วไปได้ระบุไว้ว่าพื้นที่ป่าในประเทศไทยมีประมาณ 102,353,484.76 ไร่ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์อยู่ที่ 31.64% และเป็นที่แน่นอนว่าภาคเหนือนั้นมีพื้นที่ป่ามากที่สุดในประเทศไทย ประมาณ 63.84% เทียบกับกรุงเทพมหานครมีอยู่ 21.50% (จากข้อมูลในปี พ.ศ. 2562 https://www.seub.or.th/) เห็นตัวเลขเช่นนี้แล้ว อดใจหายไม่ได้ สัดส่วนของป่าและธรรมชาติอาจจะลดลงไปอีกในวันข้างหน้าที่จะมาถึง แต่วันนี้ละ เรามองเห็นความสำคัญและความจำเป็นของการอยู่ร่วมกันของ “ป่า ธรรมชาติ ชีวิต และอาหาร” อย่างไร สำหรับในเมืองใหญ่อย่างเช่นกรุงเทพมหานครนั้น “ป่า” ดูเหมือนมีความหมายทางจิตใจมากกว่า เพราะถ้าต้องการที่จะได้ไปสัมผัสจริง คงต้องเดินทางออกสู่เมืองที่ห่างไกลออกไป และอาจมีโอกาสน้อยมาก
ถ้าให้ย้อนกลับไปสู่อดีต “ป่า” คือแหล่งอาหารอย่างแท้จริง และเป็นต้นกำเนิดของความหลากหลายของแต่ละชีวิตที่เอื้อหนุนซึ่งกันและกัน อย่างวลีที่ว่า “ป่า คน สัตว์ และอาหาร” และสิ่งนี้ก็คือ “วิถีชีวิตเมืองป่า”
นิยามของคำว่า “ป่าคือแหล่งอาหาร” นั้น อาจสะท้อนให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของการใช้ชีวิตกินอยู่กับธรรมชาตินั่นเอง คนสมัยก่อนแค่เข้าป่าก็มีกินมีใช้ แต่สมัยนี้คงพูดเช่นนี้ไม่ได้แล้ว วัตถุประสงค์ของการใช้ประโยชน์จากป่านั้นคงเปลี่ยนแปรตามเวลาและความเจริญก้าวหน้าของเมือง วิถีป่าสอนให้เรารู้จักว่า “ความอุดมสมบูรณ์ด้วยอาหารการกินตามธรรมชาติ และความสมบูรณ์ทางใจที่ไม่วุ่นวายมากนักต่างจากวิถีชีวิตของคนในเมืองใหญ่ๆ ของทุกวันนี้”
จาก “ป่าที่รอคนเข้ามาอยู่กินและอาศัย” นั้น คงเปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย ความวุ่นวายและความเจริญ ได้เข้ามาแทนที่จน “ป่า” ต้องถูกแบ่งออกไปตามความจำเป็นของการพัฒนาเมือง โดยเฉพาะเมืองใหญ่ๆ ซึ่งทำให้เราต้องวิ่งตามหาป่ามาทดแทน
วันนี้ในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เริ่มมีโครงการใหม่ๆ สำหรับการสร้างพื้นที่สีเขียวในเมือง เพื่อใช้เป็นพื้นที่เรียนรู้ทางธรรมชาติและเป็นที่พักผ่อนทางใจให้ผู้คนที่ยังไปไม่ถึง “ป่าของจริง” ในจังหวัดห่างไกลอื่นๆ ซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาที่ทดแทนและสามารถจุดประกายทั้งด้านนามธรรมและรูปธรรมอย่างดีทีเดียว แม้ว่าจะเป็นการริเริ่มสร้างจากจุดเล็กๆ ในพื้นที่เล็กๆ ก็ตาม แต่มันได้ให้ความรื่นเริงทั้งทางใจและกายได้ดี
สำหรับโครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว มีให้เห็นมากมาย ผู้คนเริ่มให้ความสนใจและสร้างวิถีชีวิตให้กลมกลืนไปกับป่าและธรรมชาตินั่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง สวนเบญจกิติ สวนวิชรเบญจทัศหรือสวนรถไฟ สวนลุมพินี สวนหลวง ร.9 อุทยาน 100 ปี จุฬา และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เป็นต้น เรียกได้ว่าหายใจหายคอกันคล่องขึ้น ใจดี กายดี การกินได้นอนหลับก็ดีตามไปด้วย การวิ่งตามหาป่าและธรรมชาติสำหรับคนในเมืองแล้ว ดูจะเป็นเรื่องของชีวิตประจำวันไปเสียแล้ว เพราะชีวิตมีความต้องการทั้งด้านกายและใจไปพร้อมๆ กัน – กายสมบูรณ์ ใจดี กินได้ นอนหลับ แค่นี้ก็ครบองค์ประกอบที่สมบูรณ์ของชีวิตแล้ว
“น้ำมันปาล์มตราผึ้ง” โดยกลุ่มปาล์มธรรมชาติ ขอร่วมส่งเสริมเพื่อสืบสานคุณค่าแห่งวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของการ “กินดี อยู่ดี สุขภาพดี” ของคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง