ทำบุญเสริมดวงวันสงกรานต์

ทำบุญเสริมดวงวันสงกรานต์

รูปประกอบจาก thainews.prd.go.th


วันสงกรานต์ ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ไทย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ ในชีวิต ตามความเชื่อที่ว่า “เริ่มต้นสิ่งดี ๆ ในปีใหม่ ชีวิตก็จะราบรื่นมีความสุขไปตลอดปี”

การทำบุญเสริมดวงในวันสงกรานต์ เป็นอีกกิจกรรมที่นิยมทำสืบทอดกันมา ซึ่งจริง ๆ แล้วสามารถทำได้หลายวิธีอยู่ เริ่มจาก

  • การทำความสะอาดบ้านเรือนเพื่อให้ดูเรียบร้อย สะอาดสะอ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บูชาพระและที่เก็บอัฐิบรรพบุรุษ รวมถึงส่วนอื่น ๆ ภายในบ้านเพื่อเป็นการเริ่มปีใหม่ ถือเป็น “ช่วยเสริมดวง ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ค้ำจุน” (ข้อมูลจาก dailynews.co.th)
  • การทำบุญให้กับบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ การรวมญาติ ถือเป็นการ “ช่วยเสริมดวงบริวาร”
  • การก่อเจดีย์ทรายหรือการขนทรายเข้าวัด คนไทยผูกโยงประเพณีนี้เข้ากับคติความเชื่อเรื่องเวรกรรมในพระพุทธศาสนา โดยเสมือนการนำเศษดินทรายที่ติดเท้าออกจากวัด มาคืนวัดในรูปของพระเจดีย์ทราย โดยถวายเป็นพุทธบูชาให้เป็นกุศลอานิสงส์ (ข้อมูลจาก Wikipedia.org) ถือเป็นการ “ช่วยเสริมดวงด้านทรัพย์สิน”
  • การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ คือการที่เราไปอวยพรผู้ใหญ่ที่ให้ความเคารพนับถือ อย่างครูบาอาจารย์ โดยจะมีการเอาน้ำหอมเจือกับน้ำธรรมดารดลงไปที่มือ ผู้หลักผู้ใหญ่ก็จะให้ศีลให้พรผู้ที่ไปรด หากเป็นพระก็อาจนำเอาผ้าสบงไปถวายเพื่อให้ผลัดเปลี่ยนด้วย แต่หากเป็นฆราวาสก็จะหาผ้าถุง หรือผ้าขาวม้าไปให้เปลี่ยน มีความหมายกับการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ ในวันปีใหม่ไทย ถือเป็นการ “เสริมดวงอุปถัมภ์” (ข้อมูลจาก kapook.com)
  • การทำบุญเลี้ยงพระ อาจมีการทำขนมพิเศษ 2 อย่าง ได้แก่ ข้าวเหนียวแดงในวันตรุษ และขนมกวนหรือ กะละแมในวันสงกรานต์ นอกจากจะทำขึ้นเพื่อทำบุญแล้ว ยังแลกเปลี่ยนแจกกันในหมู่บ้านใกล้เคียง เพื่อแสดงอัธยาศัยไมตรีในวันสำคัญอีกด้วย


สำหรับวัด ซึ่งเป็นสถานที่ทำบุญสวดมนต์เลี้ยงพระ ก็มักจะจัดให้มีกิจกรรมหลายอย่าง ได้แก่ การทำบุญตักบาตร ปล่อยนกปล่อยปลา สรงน้ำพระ ก่อพระเจดีย์ทราย และงานรื่นเริงอื่น ๆ โดยมีวัดที่นิยมขอพรเสริมดวงกัน เช่น วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) มีคติว่า “แก้วแหวนเงินทองไหลมาเทมา” หรือ “เพื่อจิตใจสะอาด ดุจรัตนตรัย” วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร มีคติว่า “เดินทางปลอดภัย มีมิตรไมตรีที่ดี” วัดชนะสงคราม ราชวรมหาวิหาร มีคติว่า “มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง” วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) มีคติว่า “ร่มเย็นเป็นสุข” วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร มีคติว่า “มีคนนิยมชมชื่น ชื่อเสียงโด่งดัง” วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร มีคติว่า “มีวิสัยทัศน์กว้างไกลมีเสน่ห์แก่บุคคลทั่วไป” วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง) มีคติว่า “ชีวิตรุ่งโรจน์ทุกคืนวัน” วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร มีคติว่า “พบแต่สิ่งที่ดีงามในชีวิต” วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร มีคติว่า “เสริมสร้างความคิดอันเป็นสิริมงคล”


ปีนี้ ใครสะดวกทำบุญวัดไหนอย่างไร เชิญตามอัธยาศัยเลยค่ะ

Similar Posts